บทความล่าสุด
ค่ำคืนอันเลวร้าย ตอนที่ 4
Patipat suwanmutcha
“อย่า อย่าเข้ามานะคุณ มิฉะนั้นผมยิงคุณทันทีเลยนะ ”
คุณสมศักดิ์ยังพูดสุภาพกับมันอีก คนตัวสูงผมหยิกหยุดชะงัก มันตั้งสติพร้อมกับยกมือเหมือนกับจะห้าม คุณสมศักดิ์จ้องปืนเขม็งมาที่มันซึ่งกำลังหยุดชะงักอยู่
“เดี๋ยวๆ เดี๋ยว ใจเย็นๆนะ อ้อ..! มึงมีปืนด้วย ”
อีกสองคนที่ยืนคุมเชิงอยู่มองมาที่ปืน คงคิดว่ามันมีปืนจะหา วิธีอย่างไรที่จะหยุดมันได้ จึงยืนนิ่งเฉยอยู่โดยไม่ได้ขยับตัว
คนสูงผมหยิกทำใจดีสู้เสือ
“เอาซี่มึงยิงกูเลย กูว่ามึงใจไม่แข็งพอที่จะฆ่าคนหรอก ”
มันยกมือขึ้นสูงเหมือนยอมจำนน พร้อมกันแอ่นอกให้
คุณสมศักดิ์ใจคงไม่แข็งพอที่จะยิงคนหรอกอย่างที่มันว่า ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยมีเรื่องกับใคร เป็นคนสุภาพใจดีตลอดมา และที่มีปืนติดตัวนี้ก็เพราะว่าเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ซื้อไว้ป้องกันตัวเท่านั้น
ปืนกระบอกนี้คุณสมศักดิ์ยังไม่เคยเอามายิงใครจริงๆสักครั้งเดียว เพียงแต่เคยไปซ้อมยิงที่สนามยิงปืนเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น เมื่อเป็นเหตุการณ์เช่นนี้ คุณสมศักดิ์จะใจแข็งและยิงปืนเป็นหรือ คนตัวสูงเดาอาการของคุณสมศักดิ์ออกแล้ว
“พูดกันดีๆก็ได้ไม่ต้องใช้ปืนหรอก”
คนสูงว่า พยายามที่จะโน้มน้าวให้คุณสมศักดิ์ใจอ่อนและเผลอตัวและคิดว่าจะได้แย่งปืนกระบอกนี้เสีย
“คุณถอยไปเลย” คุณสมศักดิ์บอก
“ทุกคนนั่นแหละมายืนรวมกันทางนี้แล้วก็เอามือไว้บนหัวทุกคนด้วย” พร้อมกับหันกระบอกปืนกวาดไปมา
คุณมาลีซึ่งกำลังกอดอยู่กับอินเดียลูกสาวข้างก้อนหินใหญ่ มองด้วยใจระทึก
“ยิงมัน ยิงมันเลย อย่าไปฟังคำพูดมัน คุณยิงมันเลยอย่าช้า ”
คุณมาลีเร่งบอกสามีของเธอซึ่งใจเธอแข็งกว่า สมกับที่เป็นคนลูกบ้านนอกมาจากบ้านนอกแท้ๆ
“สักนัดสองนัดมันก็วิ่งหนีกันหางจุกตูดแล้ว มาลีว่ามันไม่มีอาวุธอะไรหรอก จัดการมันเลย ”
คุณมาลีเร่งเร้า พร้อมกับกอดลูกอินเดียไว้แน่น ขณะที่อินเดียยังสะอึกสะอื้นอยู่ในลำคอ
“ก็ได้กูจะไม่ทำร้ายมึงแล้ว เรามาพูดกันดีๆดีกว่า ก็บอกแล้วไงว่าพวกกูจะพาพวกมึงไปส่งถึงบ้านญาติมึง แต่มึงก็ไม่เอาเองนี่ “
คนตัวสูงผมหยิกพยายามพูดดี
"มาเถอะเราไปกันได้แล้ว มึงเอาปืนเก็บเสียก่อน ไม่มีอะไรแล้ว เอาตามนี้ก็แล้วกันนะ”
คุณสมศักดิ์คิดตามประสาคนใจดีว่าพวกนี้คงจะสำนึกและกลัวปืนแล้ว และกำลังจะไปส่งตามที่มันพูด
“พวกคุณอย่าตุกติกนะ ถ้าพวกคุณทำตามที่พูด เราก็แยกย้ายกันไป พวกคุณไม่ต้องไปส่งผมหรอก ผมไปเองได้ ”
มันทำท่าเข้าใจ แล้วค่อยๆเอามือลงจากหัวอย่างช้าๆ คุณสมศักดิ์ยังกำปืนกระบอกนั้นแน่น ยังไม่ลดปืนลงง่ายๆ
“ก็ตามนั้นแล้วกัน เรามาแยกทางกันไปเถอะ ”
คนตัดผมสั้นเกรียนคล้ายๆกับทรงสกินเฮด เอ่ยขึ้นมา
“จริงด้วยแยกๆกันไปจะได้จบเสียที “
คนผมยาวเป็นกระเซิงสวมเสื้อผ้าสกปรก พูดเสริม
คุณสมศักดิ์ฟังพวกมันพูดแล้วคิดว่าคราวนี้พวกมันคงจะยอมปล่อยเขาไปแล้ว เขาถอนหายใจ พลางค่อยๆลดปืนลง แต่ก็ยังถืออยู่ในมือ
“เก็บปืนเสียเถอะ”
คนสูงขาวพูด คุณสมศักดิ์หันไปมองภรรยาคล้ายจะปรึกษาว่าจะเอาอย่างไรดี
ในขณะที่คุณสมศักดิ์ลดปืนลงและกำลังมองไปที่ภรรยาของเขา พริบตาเดียวคนสูงผมหยิกได้ทีมันคิดว่าโอกาสเป็นของมันแล้ว
ในขณะที่คุณสมศักดิ์เผลออยู่นั้น มันโถมตัวเข้าหาคุณสมศักดิ์ทันที ด้วยร่างของมันที่สูงใหญ่ มันกอดรัดคุณสมศักดิ์ไว้แน่น คุณสมศักดิ์จะยกปืนขึ้นมาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
แรงโถมด้วยร่างใหญ่ของมันทำให้คุณสมศักดิ์ล้มลงทั้งยืน ปืนกระเด็นหลุดจากมือหล่นลงไปที่พื้นหญ้า มันรีบตะปบเอาปืนมาไว้ในมือของมัน
แล้วมันก็หัวเราะเสียงดังก้องอย่างเย้ยหยันมันลุกขึ้นยืนแล้วเตะเข้าที่ท้องของคุณสมศักดิ์สองทีซ้อน เสียงดังเหมือนเตะกระสอบทราย
คุณสมศักดิ์จุกแอ๊ดตัวงออยู่ที่พื้นหญ้าลุกไม่ขึ้น คุณมาลีหวีดร้องด้วยความตกใจ และสงสารสามีของเธอเป็นยิ่งนัก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะว่ามีอีกคนหนึ่งคุมอยู่
“เอาละมึงลุกขึ้นมาเลย ทีนี้ก็ได้เวลาแล้วที่เราจะกลับบ้านกันแล้ว “ แล้วมันก็หัวเราะอีก
“ลุกขึ้นมาเลยไอ้หน้าโง่อ่อนหัดนักมึงนี่ เร็วๆเลยกูจะพาพวกมึงกลับบ้าน ” พร้อมกับเล็งปืนไปที่คุณสมศักดิ์
“เร็วๆ เดี๋ยวพัดยิงแม่งเลย ”
คนสูงผมหยิกพูดแล้วเอาเท้าเขี่ยคุณสมศักดิ์ คุณสมศักดิ์ค่อยหายจุกแล้ว แต่ก็ยังเจ็บแปลบที่ซี่โครงที่โดนมันเตะเมื่อกี้นี้ ค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ
“ ไปขึ้นรถกันได้แล้วเร็วหน่อย “ คุณผมยาวบอก พร้อมกับหันไปทางคุณมาลี
“ได้ขึ้นรถก็ได้ มึงก็ไปขึ้นรถของพวกมึง กูก็ขึ้นรถของกู แล้วเราขับตามกันไป ”
คุณมาลีบอกคนผมหยิกส่ายหน้า
“ไม่ได้หรอก อย่างนั้นไม่เอา อีคุณนายกับลูกของมึงพร้อมด้วยไอ้เตี้ยไปรถของมึง กูจะเป็นคนขับไปเอง แล้วผัวของมึงไปขึ้นรถของกู ไอ้โล้นจะเป็นคนขับไป ”
มันพูดแล้วมองจ้องหน้าคุณสมศักดิ์เขม็ง ปืนในมือมันส่ายไปมา
“ไม่เอาหรอกแบบนี้ผมและลูกเมียผมจะไปรถของผมพวกคุณก็ไปรถของคุณจึงจะถูก”
“มึงได้ยินกูสั่งหรือเปล่า อย่าลืมนะว่ากูมีปืนแล้วเอาตามที่กูบอกเถอะ อย่าขัดขืนเดี๋ยวกูฆ่าซะเลย ” พร้อมกับเอาปืนมาจ่อที่คุณสมศักดิ์
เมื่อหมดทางที่จะขัดขืนแล้ว คุณสมศักดิ์ร้องบอกภรรยาของเขาให้ทำตามที่มันพูดอย่างยอมจำนน
“เอาอย่างนั้นก็ได้” คุณสมศักดิ์ว่า
คนหัวโล้นเดินปรี่ตรงเข้าไปหาคุณมาลี พร้อมเตะอัดเข้าไปที่ท้องดังสนั่น "ลุกขึ้นเร็วๆ" ไอ้โล้นบอก
คุณมาลีจุกแน่นแทบจะลุกไม่ขึ้น มันกระชากแขนคุณมาลีให้ลุกขึ้น อินเดียกอดแม่เอาไว้แน่นร้องไห้โฮออกมาอีก เรื่องที่อินเดียเห็นนี้บีบคั้นหัวใจเด็กสาวคนนี้ยิ่งนัก
คุณมาลีลุกขึ้นแล้ว ไอ้โล้นผลักดันหลังคุณมาลีให้เดินไปที่รถของเธอ เธอล้มลุกคลุกคลาน เพราะจุกและเจ็บปวดที่โดนมันเตะแทบจะขาดใจตาย
เธอคิดว่าเวรกรรมอะไรหนอจึงได้มาพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ก็ต้องจำใจเดินไปที่รถด้วยความกระปกกระเปลิ้ย
คุณมาลีขึ้นรถได้แล้วตามด้วยอินเดีย ไอ้คนผมยาวสกปรกขึ้นไปที่นั่งข้างคนขับ
“มึงอย่าตุกติกนะมึง ไม่งั้นมึงตาย”
คนผมหยิกร่างใหญ่บอกกับคุณสมศักดิ์ที่มันกำลังเอาปืนจ่ออยู่
“ไปเลยไป ไปขึ้นรถของกูนั่น ให้ไอ้โล้นเป็นคนขับแล้วขับตามกันไป บ้านญาติมึงอยู่ไหน เดี๋ยวบอกกันในรถก็ได้ ”
มันบอกแล้วกวาดปืนในมือไปที่รถของมัน คนผมหยิกหันมาสั่งไอ้โล้น
“มึงไปขับคันนั้นไปกับไอ้นี่ออกรถไปเลย เดี๋ยวเขาบอกทางมึงเอง กูจะตามไป”
ไอ้โล้นเดินตามคุณสมศักดิ์พร้อมกับเอามือดันคุณสมศักดิ์ให้เดินไปข้างหน้าไปที่รถเก่าๆของพวกมัน
คุณสมศักดิ์ตะโกนบอกภรรยาและลูกที่ขึ้นนั่งอยู่ในรถของเขาแล้ว
“คุณใจเย็นๆนะครับ อย่ากลัว ลูกอินเดียอย่ากลัวนะ เดี๋ยวอะไรๆก็เรียบร้อยแล้ว แล้วเราไปพบกันที่บ้านคุณยายนะ ”
บอกแล้วก็ก้าวขึ้นรถคันเก่าๆของมัน ในรถของมันสกปรกเหลือเกิน แทบจะนั่งไม่ลง มีขวดน้ำเปล่า ยาชูกำลัง และมีขวดเหล้าอยู่ที่พื้นรถเกลื่อน
ไอ้โล้นตามขึ้นมานั่งที่คนขับ
“เราไปกันก่อนเดี๋ยวเขาก็ตามมา เดี๋ยวก็ถึงน่าไม่มีอะไรหรอก มึงอย่ากลัวไปเลย”
มันบอกคุณสมศักดิ์พร้อมกับติดเครื่องยนต์ แล้วรถก็เคลื่อนที่ช้าๆ เวลานี้คุณสมศักดิ์ไม่ต้องคิดแล้วว่ารถของมันจะนั่งสบายไม๊ เครื่องมันสั่นทะลวงแก้วหู หรือจะอย่างไรก็ไม่สนใจอีกแล้ว ใจรู้สึกเต้นแรงๆ คิดถึงแต่ความปลอดภัยของภรรยาและลูกสาวเท่านั้น
เลือดที่ไหลเกรอะกรังที่หน้าหยุดไหลแล้ว แต่ก็ยังเจ็บๆที่บาดแผลอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจแล้ว คิดถึงแต่ภรรยาและลูก และเขาคิดว่าจะเอาตัวรอดได้อย่างไรในเหตุการณ์เช่นนี้
คุณสมศักดิ์เหลียวมองไปข้างหลังเห็นรถของเขาซึ่งมีภรรยาและลูกถูกคุมตัวอยู่ กำลังออกเดินทางตามมา
ท่ามกลางความมืดรถสองคันเปิดไฟหน้าสว่างจ้าวิ่งตามกันไป กำลังมุ่งหน้าไปที่แนวชายเขาเห็นตะคุ่มๆอยู่ในความมืด
ทางนี้จะตรงไปยังบ้านคุณยาย ทำให้คุณสมศักดิ์สบายใจว่า พวกชายทั้งสามคนนี้คงทำตามที่ปากพูด คือมุ่งหน้าไปส่งเขาที่บ้านคุณยายนั่นเอง
รถของเขาที่วิ่งตามมาเปิดไฟสว่างจ้าตามมาอย่างกระชั้นชิด เขาเห็นแล้วก็สบายใจ แล้วคิดว่าพวกมันคงไปส่งที่บ้านคุณยายที่เชิงเขาจริงๆนั่นแหละ ตามที่พวกมันพูดเอาไว้จริงๆด้วย
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมามันจะทำร้ายบ้างก็ไม่เป็นไร เขาไม่ได้คิดในเรื่องนั้นแล้ว ขอให้ไปบ้านคุณยายอย่างปลอดภัยก็แล้วกันความลิงโลดใจเกิดกับคุณสมศักดิ์อีกครั้งหนึ่งในตอนนี้
รถทั้งสองคันวิ่งตามกันมาเรื่อยๆ แสงไฟหน้ารถคันหลังที่ตามกันมา กระดกขึ้นลงตามสภาพถนนซึ่งเป็นหลุมเป็นบ่อบ้างในบางตอน
รถวิ่งตามกันมานานพอสมควร มีทางแยกลงไปทางซ้ายเป็นถนนดินลูกลังด้านซ้ายขวาเป็นไร่ข้าวโพดหนาทึบ
ฉับพลันนั้นเองไอ้โล้นหักพวงมาลัย เลี้ยวรถลงไปที่ทางดินลูกรังนั้นทันที
ส่วนรถของคุณสมศักดิ์ที่มีลูกและภรรยาของเขานั่งมาด้วยนั้น วิ่งเลยตรงไปที่จะไปทางบ้านของคุณยาย สักครู่เดียวแสงไฟก็ลับสายตาไป
“เฮ้ยนี่จะพาผมไปไหน มันไม่ใช่ทางนี้นี่”
คุณสมศักดิ์ตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องยนต์ที่ครางกระหึ่ม พร้อมกับทำท่าจะแย่งพวงมาลัยจากไอ้โล้น ไอ้โล้นหันมามองแล้วปัดป้องไว้ รถส่ายเอนไปมา
“เดี๋ยวมึงก็รู้เองแหละว่ากูจะพาไปไหน ” แล้วมันก็หัวเราะชอบใจ.......