เรารักสุพรรณ สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี

     บึงฉวาก เป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองสุพรรณประมาณ 64 กิโลเมตร บึงฉวาก มีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาทและอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนที่อยู่ในเขตอำเภอ เดิมบางนางบวช มีพื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่ บึงฉวากได้รับประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 และในปี พ.ศ. 2541 ได้รับการจัดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่มีความสำคัญระดับชาติตามอนุสัญญาแรมซาร์ที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี เนื่องจากความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีในบึง

บึงฉวาก เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี

     ลักษณะที่เรียกว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาแรมซาร์ คือ พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม น้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้าง ทั้งที่มีน้ำขังหรือน้ำท่วมถาวรและชั่วคราว ทั้งแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล แหล่งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเลและทะเลในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดต่ำสุด น้ำลึกไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งบึงฉวากเข้าข่ายลักษณะดังกล่าว คือเป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1–3 เมตร พื้นที่บึงฉวากอยู่ในความดูแลของหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตรและอุตสาหกรรม เป็นต้น

     ริมบึงฉวากมีบรรยากาศร่มรื่น ลมพัดเย็นสบายตลอด ในบริเวณบึง เต็มไปด้วยดอกบัวสีแดงและชมพู ในช่วงตอนเช้าบัวจะบานสวยงาม นกเป็ดแดงฝูงใหญ่จับกลุ่มอยู่ตามกอบัวในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมและนกจะทยอยกลับในช่วงเดือนเมษายน มีศาลาสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน มีบริการขี่จักรยานน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถขออนุญาตกางเต็นท์พักแรมริมบึง ปัจจุบันกำลังมีการพัฒนาบึงฉวาก ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในความดูแล เช่น

     สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ ก่อสร้างขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์เป็นปีที่ ๕๐ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๓๙ และสามารถเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๔๑

     อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ ๑ เป็นอาคารที่จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่น่าสนใจ ทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืด และพันธุ์สัตว์น้ำเค็ม ในส่วนของพันธุ์สัตว์น้ำจืดมีทั้งพันธุ์ปลาไทย พันธุ์ปลาต่างประเทศ และพันธุ์ปลาสวยงามชนิดต่างๆ รวมแล้วมากกว่า ๕๐ ชนิด

PB260022

     อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ ๒ ภายในตัวอาคารประกอบด้วย ตู้ปลา ขนาดใหญ่บรรจุน้ำได้ ๔๐๐ ลูกบาศก์เมตร จำนวน ๑ ตู้ สามารถเดินดูปลาได้รอบตู้ มีอุโมงค์ความยาว ๘.๕ เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นอุโมงค์น้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย และมีนักประดาน้ำหญิงคอยให้อาหารปลา นอกจากนี้ยังมีตู้ปลาน้ำจืดอีก ๓๐ ตู้ และตู้ปลาทะเลสวยงามอีก ๗ ตู้

     อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ ๓ จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลมากมายหลายชนิดให้ได้ชมกัน จุดแรก คือ บ่อ Touch Pool ขนาดกว้าง ๒.๕๐ เมตร ยาว ๕.๐๐ เมตร เป็นบ่อที่จะได้พบกับสัตว์น้ำต่างๆ อย่างใกล้ชิด ใครกล้าจับก็สามารถจับได้โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำวิธีการจับอย่างถูกต้อง สัตว์น้ำในบ่อประกอบไปด้วย ปลาดาวหมอน ปลาดาวน้ำเงิน ปลิงทะเล ฉลามกบเล็ก กระเบนจุดฟ้า ปูเสฉวน และเม่นทะเล

     ตู้ปลาทรงกระบอก (Cylinder) เส้นผ่าศูนย์กลาง ๒.๐๐ เมตร สูง ๖.๘๐ เมตร เป็นตู้ทรงกระบอกที่ใหญ่และสูงที่สุดในเมืองไทย ตู้นี้ท่านจะได้พบกับปลาบลูแท้งค์ ปลาเยลโล่แท้งค์ ปลาข้าวเม่าน้ำลึก ปลาโนรี ปลาบลูเดมเซล ปลาตะกรับเหลืองยักษ์ และปลาพยาบาล

     เปิดโลกใต้ทะเล (The Open Sea) สัมผัสความสวยงามของปลากระเบนนกขนาดต่างๆ ปลากะพงแดง ปลากะพงเหลืองลายฟ้า ปลาทูทอง ปลานกขุนทอง นโปเลียน ปลาค้างคาว ปลาช่อนทะเล ปลาโมง และปลาฉลามครีบดำ ว่ายไปมาเหนือศรีษะของเราความสูงของตู้ ๙.๐๐ เมตร สูงที่สุดในไทย

PB260025

     ตู้ยักษ์ใต้สมุทร (Giant Groupter) พบกับปลาหมอทะเลขนาดใหญ่ ปลากระเบนท้องน้ำ และเต่าทะเล อุโมงค์ยาว ๑๒.๕๐ เมตร มีทางเลื่อนแบบแนวราบเพื่อความสะดวกสบายในการชมปลาตลอดความยาวอุโมงค์

     ตู้แนวปะการัง (Coral Reef) ท่านจะได้พบกับฝูงปลาสวยงามขนาดใหญ่ เช่น ปลาปักเป้าชนิดต่างๆ ปลาผีเสื้อลายตรง ปลาผีเสื้อเหลือง ปลาบลูแท้งค์ ฯลฯ ตกแต่งด้วยปะการังเทียนชนิดต่างๆ

     ตู้ปะการังสีฟ้าจากโอกินาวา (Okinava blue) ผู้ออกแบบพยายามเนรมิตรปะการังภายในตู้คล้ายกับปะการังภายในตู้ให้คล้ายกับปะการังในทะเลโอกินาวาให้มากที่สุด ในตู้ประกอบด้วย ปลาอมไข่ ปลาม้าลาย ปลาโดมิโน ปลานกแก้วเหลือง ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ และปลาผีเสื้อชนิดต่างๆ
ในระหว่างที่เดินกลับจะมีช่องกระจกใสขนาดเส้นทผ่าศูนย์กลาง ๐.๙๐ เมตร ซึ่งเป็นช่องที่ทำให้ท่านเห็นปลาในตู้ได้ตลอดทางเดินเปรียบเสมือนอยู่ในเรือดำน้ำแล้วมองดูปลา มองดูปะการังจากเรือดำน้ำในทะเล

     อุโมงค์ปลาฉลาม (Shark Tunnel) ตู้นี้ท่านจะได้พบกับฝูงฉลามขนาดใหญ่ และหลากหลายชนิด เช่น ปลาฉลามเสือดาว ปลาฉลามครีบดำ ปลาฉลามมะนาว และปลาฉลามขี้เซา อุโมงค์ปลาฉลามมีความยาว ๑๖.๐๐ เมตร น้ำลึก ๖.๐๐ เมตร จุน้ำได้ ๑,๑๐๐ ลูกบาศก์เมตร อุโมงค์กว้างถึง ๖.๐๐ เมตร ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่กว้างที่สุดในโลก

     ตู้สีสันสิมิลัน (Similan Cliff) ตกแต่งด้วยปะการังสีชมพู กัลปังหาที่สวยงาม อะครีลิกด้านหน้าของตู้เป็นรูปโค้งเว้าแบบจอภาพยนตร์ กว้าง ๗.๕๐ เมตร สูง ๒.๕๐ เมตร มีปลาชนิดต่างๆ สีสันสวยงามหลากหลายชนิด และด้านหน้าของตู้ยังมีเก้าอี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนอีกด้วย

PB260039

     เวทีริมบึง มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของนักเรียน นักศึกษาในจังหวัดสุพรรณบุรี นำการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่หาดูได้ยากมาให้ชมในช่วงวันหยุดเทศกาล

     บ่อจระเข้น้ำจืด เป็นบ่อจระเข้ที่ได้จำลองให้มีสภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยขนาด 1.5–4.0 เมตร ประมาณ 60 ตัว ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นความเป็นอยู่แบบธรรมชาติของจระเข้และสามารถเข้าชมอย่างใกล้ชิด มีการแสดงจระเข้วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รอบ 11.00 น., 12.30 น., 14.00 น. และ 15.30 น.ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวากสร้างขึ้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ประกอบไปด้วย อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าชนิดต่างๆ การดูนก สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติความเป็นมาของบึงฉวาก มีตู้จำลองระบบนิเวศ ห้องฉายสไลด์วิดีทัศน์ ด้านนอกอาคารมี กรงเลี้ยงนก ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ สูง 25 เมตร ภายในกรงได้รับการตกแต่งให้ดูคล้ายสภาพธรรมชาติ ประกอบด้วยนกกว่า 45 ชนิด ที่น่าสนใจได้แก่ นกกาบบัว นกเป็ดแดง ไก่ฟ้าพญาลอ และไก่ฟ้าสีทอง ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นไก่ฟ้าที่มีความสวยงามที่สุดในโลก มีการจำลองน้ำตกขนาดเล็กเอาไว้ภายในกรง ผู้เข้าชมจะเดินตามทางเดินที่จัดไว้และได้สัมผัสใกล้ชิดกับนกต่างๆ ที่ปล่อยให้มีชีวิตอยูในสภาพแบบธรรมชาติเดินผ่านหน้าเราไป หากเดินถัดไปจากกรงนก จะเป็นกรงเสือขนาดใหญ่ กรงเสือขนาดเล็ก มีเสือชนิดต่างๆให้ชมและ ที่พิเศษคือ มีลูกเสือดูดนมหมู และสัตว์สวยงามอีกหลายชนิด

PB260034

     กรงเสือและสิงโต ลักษณะภายในตกแต่งเป็นถ้ำและเนินหินให้ดูคล้ายสภาพธรรมชาติ ซึ่งเป็นกรงเลี้ยงสัตว์ป่าตระกูลแมว อันได้แก่ สิงโต เสือโคร่ง เสือลายเมฆ เสือดาว แมวดาว เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีกรงสัตว์ป่าหายากอีกหลายประเภทที่จัดแสดงไว้ เช่น นกน้ำ นกยูงและไก่ฟ้าชนิดต่างๆ ม้าลาย อูฐ และนกกระจอกเทศ เป็นต้น

     เกาะกระต่าย พื้นที่คล้ายเกาะ สร้างเป็นที่พักของกระต่าย 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เจอร์ซี่ วูลลี่ และสายพันธุ์แองโกร่า ที่มีความน่ารักและสวยงาม รวมทั้งยังมีกวางดาว เน้อทราย และจากสาเหตุที่เป็นเกาะมีพื้นที่น้ำล้อมรอบ จึงเลี้ยงปลาไว้ในกระชังอีกจำนวนมาก เพื่อให้ผู้คนได้พักผ่อนอีกประเภทหนึ่ง โดยการให้อาหาร เช่น ปลาทอง ปลาคาร์ฟ ปลาสวายเผือก ฯลฯ

     ศูนย์จำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ อาคารสองชั้นติดกรงนกขนาดใหญ่ รวบรวมสินค้าทั้งของกินและของใช้จากจังหวัดสุพรรณบุรีมาไว้ที่นี่ นอกจากจะแสดงสินค้าภายในจังหวัดแล้ว ยังรวบรวมสินค้าจากจังหวัดใกล้เคียงมาไว้ในอาคารนี้อีกด้วย

     โรงสีชุมชน สถานที่รับรองผลผลิตของเกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวปลอดสารพิษ นำผลผลิตที่ได้มาส่งให้โรงสีขนาด 5 ก.ก. ต่อชั่วโมง เพื่อแปรรูปเป็นข้าวสารปลอดสารพิษบึงฉวาก ออกจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้เสริมของเกษตรกร และอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค

     อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพ เฉลิมพระเกียรติบึงฉวาก อยู่ในความดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตร จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทั่วไปเห็นคุณค่าและอนุรักษ์ผักพื้นบ้าน โดยรวบรวมผักพื้นบ้านจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทยกว่า 500 ชนิด มาปลูกไว้ในบริเวณเกาะกลางบึงฉวาก มีทั้งสมุนไพร ไม้ยืนต้น ไม้เลื้อย ไม้ล้มลุก และไม้ชื้นแฉะที่น่าสนใจได้แก่ น้ำเต้าสี่เหลี่ยม บวบหอมขนาดใหญ่ อุโมงค์น้ำพุ และการจัดสวนไม้ประดับด้วยผักพื้นบ้าน นอกจากนั้นยังมีโรงปลูกพืชระบบระเหยน้ำ และสาธิตการปลูกพืชไร้ดินจัดแสดงให้ชมด้วย และมีห้องสมุดบริการคอมพิวเตอร์สำหรับค้นคว้าข้อมูลพันธุ์ผักต่างๆ ห้องนิทรรศการแสดงผลผลิตทางการเกษตร

การเดินทาง

     จากถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) เมื่อถึงแยกไฟแดงเข้าอำเภอเดิมบางนางบวช ให้ขับตรงขึ้นไปอีกประมาณ 4 กม. จะสังเกตเห็นป้ายทางเข้าบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติขนาดใหญ่ ให้เลี้ยวซ้าย ไปตามทางประมาณ 800 เมตร จนถึงทางแยกซ้าย-ขวา ให้เลี้ยวขวา วิ่งไปประมาณ 750 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นวิ่งไปตามทางประมาณ 2 กม. จนถึงซุ้มทางเข้าเขตบึงฉวากให้เลี้ยวขวา จะสังเกตุเห็นส่วนจัดแสดงต่าง ๆ ของบึงฉวากเป็นระยะๆ

การเข้าชมส่วนจัดแสดงต่าง ๆ ของบึงฉวาก

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ

  • เปิดให้ชมทุกวัน
  • ค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่ ๓๐ บาท / เด็ก ๑๐ บาท / ชาวต่างชาติ ๓๐ บาท
  • เปิดให้เข้าชม วันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.
  • เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๘.๐๐ น.
  • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ๐ ๓๕๔๓ ๐๐๔๓ โทรสาร ๐ ๓๕๔๓ ๐๐๔๓

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ ๓ (ฉลาม)

  • เปิดให้ชมทุกวัน
  • ค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่ ๑๕๐ บาท / เด็ก ๕๐ บาท / ชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท / เด็กต่างชาติ ๑๐๐ บาท
  • เปิดให้เข้าชม วันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.
  • วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๘.๐๐ น.
  • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ๐ ๓๕๔๓ ๐๐๔๓ โทรสาร ๐ ๓๕๔๓ ๐๐๔๓

ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก

  • เปิดทุกวัน
  • จันทร์-ศุกร์ 08.00–16.30 น.
  • เสาร์-อาทิตย์ 08.00–18.00 น.
  • โทร. 0 3543 9206, 0 3543 9210
  • สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก โทร. 0 3548 1250

ศูนย์บริการท่องเที่ยวเกษตรอุทยานผักพื้นบ้านฯ

  • เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น.
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 08 1948 9214, 08 9836 1358 โทร. 0 3543 0011
  • หรือติดต่อ สำนักงานเกษตร อำเภอเดิมบางนางบวช โทร. 0 3554 5450, 0 3555 5455