เรารักสุพรรณ สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี

กิจกรรมที่น่าสนใจ ในสุพรรณบุรี

งานแห่เทียนพรรษา สุพรรณบุรี 2561

     งานแห่เทียนพรรษา จังหวัดสุพรรณบุรี ในปี 2561 นี้ ทางจังหวัดสุพรรณบุรี จะจัดให้มีพิธีแห่เทียนพรรษา (ขบวนแห่เทียนพรรษา) ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2561  ...

ถนนหรรษา วินยานุโยค อู่ทอง สุพรรณบุรี

     "ถนนหรรษา วินยานุโยค" จัดขึ้นโดย สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง (อพท.7) ร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ ชาวบ้านชุมชนศรีสรรเพชญ์พัฒนา ชุมชนต้นแจงพัฒนา และชุมช...

ค่ำคืนอันเลวร้าย 2
เขียนโดย Patipat Suwanmutcha

 

คุณสมศักดิ์พร้อมกับภรรยาและลูกสาวได้ยินเสียงแว่วๆพอจับใจความได้ว่า คนในรถคนหนึ่งตะโกนบอกให้หยุดรถก่อน คุณสมศักดิ์ยังไม่ยอมหยุดรถ และบอกภรรยาและลูก

“อย่าไปมองเขานะคุณ” ทั้งคู่จึงมองไปข้างหน้าอย่างไม่ละสายตา ตอนนี้ท้องฟ้ามืดมิดแล้วเพราะเป็นข้างแรม เห็นแต่แสงไฟหน้ารถส่องสว่างไปตามท้องถนนที่เปลี่ยวและไม่มีรถวิ่งผ่านไปมาสักคันเดียว

 

คุณสมศักดิ์คิดว่าพวกนี้คงมีอะไรที่เข้าใจผิดกันแล้ว แต่ก็ยังคิดไปในทางที่ดีว่าคงไม่มีอะไร จึงขับรถต่อไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดรถ ตามที่ชายคนที่นั่งอยู่ในรถอีกคันหนึ่งตะโกนบอก

ได้ยินเสียงด่าสบถโวยวายมาจากรถอีกคันหนึ่งจากชายคนนั้น
รถทั้งสองคันยังขับตีคู่กันมาอย่างไม่เร็วนัก เพราะถนนแคบและถนนไม่ดีด้วย แม้ว่าจะเป็นถนนลาดยาง แต่พื้นถนนก็เป็นหลุมเป็นบ่อขุขระตามสภาพของถนนในชนบท ทำให้รถวิ่งได้ช้า

 

สักครู่หนึ่งรถที่วิ่งคู่มานั้นได้ขับมาชิดรถของคุณสมศักดิ์แล้วกระแทกด้านข้าง หมายใจว่าจะให้คุณสมศักดิ์หยุดรถให้ได้ ทีแรกก็เบาๆก่อน พอกระแทกหลายครั้งเข้าก็กระแทกแรงมากขึ้น

แม้ว่าจะกระแทกด้านข้างรถคุณสมศักดิ์แรงมากขึ้นแต่รถของคุณสมศักดิ์ก็สะเทือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเป็นรถขนาดใหญ่กว่ารถที่ตั้งใจเบียดมานั้นมากนัก

“เอ๊ะอะไรกันนี่ สงสัยจะไม่ดีเสียแล้ว ” คุณสมศักดิ์บ่นออกมาด้วยความหัวเสีย

“อย่าจอดนะคุณ เราไม่รู้ว่าเขาจะเอาอย่างไรกันแน่ ” คุณมาลีเอ่ยออกมา

อินเดียตอนนี้ไม่ง่วงนอนแล้ว มองดูเหตุการณ์ด้วยใจระทึกเพราะว่าไม่เคยเห็นเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน

คุณสมศักดิ์พยายามประคองรถให้วิ่งอยู่บนถนน รู้สึกว่ารถจะส่ายไปมาเพราะแรงกระแทกของรถอีกคันหนึ่ง

“เฮ้ย เฮ้ย บอกให้หยุดไง หยุดรถแล้วลงมาพูดกันก่อน”

 

เสียงจากรถคันที่วิ่งคู่ขนานกันมาตะโกนดังลั่น จากคนที่นั่งอยู่ในที่คนขับ ซึ่งเห็นได้ว่าตัดผมสั้นเกรียนบางๆ ดูหน้าตาจะดีกว่าคนแรกที่ตะโกนออกมา

รถตีคู่กันมาได้ไกลแล้ว สักครู่หนึ่งรถคันที่วิ่งคู่กันมากระแทกด้านข้างรถคุณสมศักดิ์อย่างแรง จนสุดที่คุณสมศักดิ์จะบังคับรถไว้ได้

รถจึงวิ่งไถลลงไปข้างๆทางซึ่งไหล่ทางไม่สูงเท่าไรนัก ข้างทางเป็นร่องตื้นๆ ทำให้รถไม่ได้พลิกคว่ำลงไป

รถจึงจอดที่ข้างทางและคุณสมศักดิ์ดับเครื่องยนต์ แต่ไฟหน้ารถยังเปิดเอาไว้ให้มีแสงไฟส่องสว่างท่ามกลางความมืด

 

“มีอะไรต้องพูดกับพวกมันให้รู้เรื่องแล้ว ” คุณสมศักดิ์พูดอย่างอารมณ์เสีย

“คุณอย่าเพิ่งลงไปนะคุณ” คุณมาลีบอก
“คอยดูท่าทีมันก่อน แบบนี้ไม่ดีแน่แล้ว และพวกมันน่าจะมีอาวุธด้วย”

 

คุณมาลีมองไปที่รถคันนั้น ซึ่งกำลัง วิ่งลงมาจากถนนแล้วมาจอดไม่ไกลจากรถคุณสมศักดิ์นัก

เสียงเครื่องยนต์จากรถคันนั้นยังครางกระหึ่มอยู่ ชั่วครู่เดียวเครื่องยนต์ก็ดับสนิทแต่ก็ยังเปิดไฟหน้ารถเอาไว้ ประตูรถเปิดออก ชายสามคนก้าวลงมาจากรถพร้อมกัน

ชายคนที่สามซึ่งทีแรกมองไม่เห็นตอนนั่งอยู่ในรถ ซึ่งเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ผมหยิกเล็กน้อย ไว้ผมรองทรงธรรมดาทั่วไป มองเห็นจากแสงไฟอย่างไม่ชัดนัก

เห็นจากแสงไฟหน้ารถว่าเป็นคนผิวขาวหน้าตาดี ไว้หนวดที่ริมฝีปาก เดินเข้ามาที่รถพลางกระชากประตูทางด้านคนขับ ที่คุณสมศักดิ์นั่งอยู่ แต่ประตูไม่เปิด เพราะคุณสมศักดิ์ยังล๊อคประตูทุกบานเอาไว้

 

“อ้อ มากันสามคนเหรอนี่”

คนที่กระชากประตูแล้วประตูยังไม่เปิด มองผ่านกระจกกวาดสายตาไปทั่วๆ เห็นเป็นผู้หญิงอีกสองคนที่นั่งอยู่ในรถ

อีกสองคนที่มาด้วยกัน ซึ่งคนหนึ่งเป็นคนขับรถผมสั้นเกรียน เหมือนว่าจะบวชเพิ่งสึก มายืนที่หน้ารถ เอามือทั้งสองยันกับหน้าหม้อรถเอาไว้ตรงกับแสงไฟหน้ารถพอดี

อีกคนหนึ่งที่เป็นคนตะโกนเป็นคนแรก ที่ผมยาวเป็นกระเซิง แต่งกายสกปรก มายืนที่ท้ายรถ มองดูที่ยางรถยนต์ของคุณสมศักดิ์

แล้วก็เบือนหน้าไปมองทางอื่นแล้วก็กลับมามองที่ยางรถยนต์อีก โดยที่ไม่รู้ว่ามันประสงค์อะไร

 

“ลงมาจากรถเถอะครับคุณ มาคุยกันก่อน ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกครับ ”

ชายคนร่างสูงผมหยิกไว้หนวดที่กวาดสายตาเข้าไปในรถบอก

“อย่าเปิดนะคุณ เราไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกับเขา เราก็มาของเราดีๆแต่เขามาหาเรื่องเราเอง อย่างนี้ไม่ดีแน่ๆเลย ”

คุณมาลีบอกคุณสมศักดิ์ที่กำลังงงอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคิดว่าเวลานี้ภัยกำลังมาใกล้ตัวแล้ว แต่จะเป็นแบบไหนจะเอาตัวรอดอย่างไรยังไม่รู้เท่านั้นเอง

คนที่เป็นคนมาเจรจานั้นทำท่าหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าคุณสมศักดิ์ยังนิ่งเฉยอยู่

“อยากให้ผมทุบกระจกเข้าไปหรือ ลงมาคุยกันดีๆดีกว่าครับ ไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำอะไรพวกคุณหรอก อยากจะคุยเรื่องที่คุณขับรถแล้วมาเบียดรถผมตกถนนเท่านั้นเอง”

 

พูดหาเรื่องอย่างนี้คุณสมศักดิ์ก็พอมองออกแล้วว่าพวกนี้ต้องประสงค์อะไรอย่างหนึ่ง อย่างแน่นอน

ชายคนที่ยืนอยู่หน้ารถเดินกลับไปที่รถของเขาหยิบเอากุญแจเลื่อนอันใหญ่แล้วเดินกลับมา แล้วบอกว่า

“มันไม่ยอมเปิดประตู ก็เอากุญแจเลื่อนนี้ฟาดกระจกแม่งเลย ”
คนที่ถือกุญแจเลื่อนมาทำท่าจะฟาดไปที่กระจกรถ

“อย่าๆ ทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วย คุณมีอะไรก็คุยกันอย่างนี้ก็ได้นี่ ”

 

คุณสมศักดิ์ยกมือห้าม เพราะคิดว่าจะเสียของเปล่าๆและเรื่องจะบานปลาย ถ้าเขาทำแบบนั้น

“ก็มึงไม่ลงมานี่ กูพูดดีๆแล้วนะ มึงไม่ลงมาตกลงกันก่อนนี่นา มึงเบียดรถกูตกถนนแล้วไม่ลงมาตกลงกัน กูก็ต้องเอาแบบนี้ ”

ชายคนนี้พูดไม่สุภาพ และพูดไม่ตรงกับความจริง แต่จะไปหาคำพูดที่สุภาพอะไรกับคนพวกนี้ได้เล่า

“คุณพ่อขา ก็ลงไปเจรจากับเขาก็แล้วกัน ให้เสร็จๆเรื่องจะได้ไปกันต่อ หนูหิวแล้วค่ะคุณพ่อ”

อินเดียบอกคุณพ่อ ตามประสาเด็กๆที่ยังมีความคิดไม่ไกลนัก
คุณสมศักดิ์นั่งนิ่ง มองภรรยาและลูกไปมาคล้ายๆว่าจะขอคำปรึกษาว่าจะเอาอย่างไรกันดี

“ลงไปคุยกับเขาก็ได้ ต้องระวังตัวนะคุณ เอานี่ไปด้วย”


คุณมาลีบอก พร้อมกับเปิดลิ้นชักรถ หยิบเอาปืนและแม๊กกาซีนซึ่งบรรจุลูกกระสุนเต็ม ส่งให้คุณสมศักดิ์

“ดีแล้วครับ ผมจะลงไปคุยกับพวกมันให้รู้เรื่อง จะได้จบๆกันไป แต่คุณและลูกอินเดียอย่าลงจากรถเป็นอันขาดนะครับ ” คุณสมศักดิ์บอกภรรยาและลูกสาว

คุณสมศักดิ์รับปืนมาแล้วก็ยัดซองกระสุนเข้ากับตัวปืนสนิทดีแล้ว ปลดล๊อก ขึ้นลำเอาไว้พร้อมที่จะใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ

เขาเอาปืนเหน็บกับขอบกางเกงด้านหน้าตรงพุงแล้วเอาชายเสื้อปิดไว้ พร้อมกับเปิดล๊อกประตู เปิดประตูรถแล้วค่อยๆก้าวลงจากรถ

 

คุณสมศักดิ์ลงมายืนข้างๆประตูรถยังไม่ทันเอ่ยอะไรออกมา ในพริบตานั้นชายคนที่มากระชากประตูในตอนแรกได้แสดงความเป็นเสือร้ายทันที

ยังไม่ทันที่จะรู้ตัวมันก็เอื้อมมือมาจับคอเสื้อคุณสมศักดิ์ขยุ้มเข้าไว้ แล้วเอาฝ่ามืออีกข้างหนึ่ง ตบไปที่หน้าของคุณสมศักดิ์ ล้มคว่ำลงไปนอนคว่ำที่พื้นทันที ปืนที่คิดว่าจะใช้ป้องกันตัวก็ไม่มีโอกาสได้ชักออกมาเสียแล้ว

 

 

 

ท่องเที่ยวทั่วไทย

 manuspanich250x100