เรารักสุพรรณ สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี

ไปเที่ยวพม่า

บทนำ

     ก่อนที่ผมจะไปเที่ยวที่เมืองพม่าสักเดือนหนึ่ง มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งมีบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน และรู้จักกันมานาน ได้ถีบรถจักรยานมาหาผมที่บ้านในตอนเย็นวันหนึ่ง และได้ทักทายพูดคุยกันเหมือนทุกครั้งที่ได้พบกัน ในตอนหนึ่งเขาถามผมว่า

 “คุณเคยไปเที่ยวพม่ามาหรือยัง ”  พร้อมกับยิ้มให้

ผมก็ว่า “ยังไม่เคยไปเลยมีอะไรหรือครับ “ 

“ดีแล้วละผมมีข่าวดีมาบอกครับ”  เพื่อนบ้านว่า แล้วก็บอกต่ออีกว่า

“ไม่ทราบว่าคุณเคยคิดอยากจะไปเที่ยวบ้างหรือเปล่าล่ะครับ ประเทศพม่าน่ะ คือว่าเวลานี้ผมได้จองตั๋วทัวร์ของบริษัทหนึ่งเอาไว้ ๘ ที่ ”

เขาหยุดพูดมองหน้าผมคล้ายจะสำรวจดูว่า ผมสนใจในการนำเสนอของเขาหรือเปล่า แล้วก็พูดต่อ

 “ ผมตั้งใจจะพาลูก (๒ คน) และเมีย พ่อกับแม่ของผม รวมทั้งพ่อกับแม่ของภรรยา (พ่อตาแม่ยาย)ไปด้วย แต่พอเอาเข้าจริงๆ พ่อกับแม่ภรรยาไม่อยากไป  ตั๋วทัวร์นี้ก็เลยเหลือ ๒ ที่นั่ง ผมนึกได้ว่าคุณก็ชอบไปเที่ยวโน่นนี่บ่อยๆ จึงมาถามดูเผื่อว่าคุณจะอยากไปเที่ยวด้วยกันบ้าง ”

เมื่อเขาดูกิริยาผมแล้วเห็นว่าผมคงจะสนใจบ้าง เพื่อนบ้านคนนี้จึงได้บอกรายละเอียดต่างๆ อย่างคร่าวๆ รวมทั้งวันเวลาที่จะออกเดินทาง กระทั่งวันกลับ สายการบินที่จะบินไป และที่สำคัญเขาไม่ลืมที่จะบอกราคาของทัวร์เที่ยวนี้ด้วย

“น่าสนใจมากนะครับ ” ผมบอก

 “คุณให้คนมาส่งโบชัวร์และรายละเอียดต่างๆ มาให้ผมด้วยผมจะไปปรึกษาที่บ้านดู แล้วผมจะให้คำตอบคุณอย่างเร็วที่สุดครับ  ”

“ได้เลยครับ “เพื่อนบ้านรีบบอก ยิ้มอย่างมีความสุข เขาคงคิดว่าเที่ยวนี้อย่างน้อยก็จะมีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยอีกสองคนอย่างแน่นอน

     อีกสองวันต่อมาเพื่อนบ้านของผมคนนั้น ก็ให้เด็กเอาโบชัวร์มาให้แต่เช้า ผมรับมาแล้วก็มาอ่านดู รายการต่างๆ บริษัททัวร์เขาแจงรายละเอียดเอาไว้ในนั้นทั้งหมด  ผมจึงได้ปรึกษากับภรรยาดู และเห็นสมควรที่จะไปประเทศพม่ากันสักครั้งหนึ่ง เพราะว่าประเทศพม่านั้นผมและภรรยายังไม่เคยไปกันเลย

     ในที่สุดผมกับภรรยาก็ตอบรับเพื่อนบ้านคนนั้น และอีกสองวันต่อมา เขาก็มาขอรับเงินค่าเดินทาง ทั้งหมดซึ่งรวมทุกอย่างในการเดินทางครั้งนี้ และได้ถ่ายเอกสารพาสปอร์ตของผมและภรรยาให้เขาตามที่เขาขอด้วย เขาบอกว่าจะต้องจ่ายเงินเขาล่วงหน้า (บริษัททัวร์)ก่อนการเดินทาง ๒๐ วัน เป็นอย่างน้อย และจะเอาสำเนาพาสปอร์ตนี้ไปให้เขาพร้อมๆกับไปจ่ายเงินให้เขาด้วยเลย

     ในโบชัวร์เท่าที่ผมได้อ่านอย่างละเอียดในภายหลัง  ทางบริษัททัวร์ได้แจกแจง ข้อต่างๆไว้เยอะ แต่รายละเอียดในการเดินทาง ว่าจะไปเที่ยวกันไหนบ้าง ทานอาหารกันที่ไหน พักกันที่โรงแรมอะไรนั้น ยังไม่มีรายละเอียดในเรื่องนี้ เขาบอกว่าเมื่อเราจ่ายเงินค่าเดินทางเขาเรียบร้อยแล้ว เป็นอันว่าเราไปแน่นอน แล้วเขาจะส่งโบชัวร์รายละเอียดต่างๆ มาให้ในไม่นานนัก

ดังนั้นทุกอย่างเป็นอันว่าเรียบร้อยสำหรับการที่จะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศพม่าในครั้งนี้ เพียงแต่รอวันเวลาในการเดินทางเท่านั้นเอง

 ตอนที่ 1 ที่สนามบินดอนเมือง 

     ไม่กี่วันต่อมา เขาก็ส่งรายละเอียดต่างๆมาให้อย่างเร็วทันใจ ในนั้นก็มีรายละเอียดต่างๆเยอะแยะเกี่ยวกับเรื่องที่จะไปท่องเที่ยวประเทศพม่า จะไปเที่ยวที่ไหน พักที่ไหน อะไรอย่างนี้ก็จะเป็นไปตามโปรแกรมที่เขาได้แจ้งมา แต่ก็จะมีหมายเหตุไว้ด้วย คือ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็น แต่ที่สำคัญก็คือการนัดให้ลูกทัวร์เช่นพวกผมนี้ ไปพบกันที่สนามบินดอนเมือง เพื่อขึ้นเครื่องบินที่นั่น

     เมื่อวันเดินทางจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ ที่ผมและแม่บ้านจะต้องไปที่สนามบินดอนเมือง ตามกำหนดของบริษัททัวร์ที่เราจะไปกับเขา ซึ่งทางบริษัททัวร์ได้แจ้งมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ให้ไปพบกันที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน แอร์เอเชีย ในเวลา 4.30 น. ซึ่งก็คือตีสี่ครึ่งนั่นเอง

     ที่ให้ไปเร็วหน่อยนี้ก็ต้องการที่จะเผื่อเวลา หากว่ามีปัญหาติดขัดจะได้แก้ไขได้ทัน และมีเวลาที่จะต้องไปทำเอกสารต่างๆ พิธีการเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศ และเอกสารการเข้าเมืองของประเทศพม่าให้เรียบร้อย  ก่อนเครื่องบินจะออกเดินทางในเวลาประมาณ ๗.๓๐ น.

     ผมยังคิดว่า ทำไมจะต้องไปล่วงหน้าตั้งหลายชั่วโมงอย่างนี้  แต่เมื่อได้ไปที่สนามบินแล้ว ก็เป็นความจริงครับ ที่ต้องมาเร็วอย่างนี้ คอยดูกันต่อไปก็แล้วกัน

     ย้อนไปนิดหนึ่ง ตั้งแต่ตอนบ่ายวันที่ 22 เมษายน 2559 คือเมื่อวานนี้ ก่อนเดินทาง 1 วัน ผมพร้อมด้วยคุณหวานแม่บ้านของผม โดยเหตุที่บ้านผมอยู่ต่างจังหวัด จึงจำเป็นต้องไปค้างที่บ้านลูกสาวก่อน เพราะว่าถ้าผมจะออกจากบ้านที่ต่างจังหวัด ก็กลัวว่าจะขลุกขลัก เพราะว่าต้องตื่นเร็วเกินไป  

บ้านลูกสาวของผมอยู่ที่ลำลูกกานี่เอง ในตอนดึกๆถ้ารถไม่ติด วิ่งแป๊บเดียวก็จะถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว ไม่น่าจะเกิน 15 นาทีด้วยซ้ำไป

ผมกับคุณหวาน (แม่บ้านของผมต่อไปจะเรียกว่าคุณ “หวาน”) จึงตื่นกันตั้งแต่ ตี 3 กว่าๆที่บ้านลูกสาว ลุกขึ้นมาอาบน้ำ เตรียมกระเป๋าเดินทางลูกใหญ่ลูกเดียวเพื่อไม่ให้เกะกะ ใส่เสื้อผ้าและของจำเป็นเล็กน้อย ซึ่งไม่มีอะไรมาก มีแต่เสื้อผ้า และของที่จำเป็น เช่นยาที่กินประจำเท่านั้นใส่รวมกันไปเลย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ซึ่งได้จัดเตรียมมาก่อนล่วงหน้าตั้งแต่อยู่ที่บ้านต่างจังหวัดไว้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนกระเป๋ากล้องของผม และกระเป๋าหิ้วของคุณหวาน ต่างคนต่างก็หิ้วหรือสะพายบ่ากันไป ก็ดูไม่เกะกะดี การที่ผมจัดของไปเท่าที่จำเป็นนั้น ก็คิดว่าถ้าหากขาดอะไรที่จำเป็นต้องใช้ก็จะไปซื้อเอาที่พม่า ซึ่งคิดว่าก็จะไม่ลำบากอะไรนัก

ไปเที่ยวพม่าไปเที่ยวพม่า

ที่สนามบินดอนเมือง ตอนนี้พบกับไกด์แล้วกำลังจะทำเรื่องเอกสารการเดินทาง

     ในปัจจุบันนี้การเดินทางไปประเทศอื่นๆอีกหลายๆประเทศ อย่างเช่นในครั้งนี้ผมจะเดินทางไปประเทศพม่า ก็ไม่ต้องมีการขอ วีซ่า (คือการขออนุญาตเข้าเมืองของเขา) แล้ว ใช้พาสปอร์ตของเราเพียงเล่มเดียวก็พอ  นับว่าสะดวกกว่าสมัยก่อนๆเป็นอันมาก

     แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศนะครับ ที่จะต้องขอวีซ่า เพื่อขออนุญาตเข้าเมืองของเขา และก่อนที่เขาจะอนุญาตนั้น เขาก็ต้องตรวจประวัติของเราอย่างละเอียดที่สุด เพื่อความปลอดภัยของประเทศของเขา เช่น สหรัฐอเมริกา หรือประเทศอื่นๆในยุโรปเป็นต้น

     ผมและคุณหวานแม่บ้านของผมมาถึงสนามบินดอนเมือง ประมาณ ตี 4 ครึ่งพอดี ในขณะที่นั่งรถมากับลูกสาวนั้น ก็ยังคิดอยู่ในใจว่า เรามาเช้าซะขนาดนี้ ที่สนามบินก็คงจะไม่ค่อยมีคนเท่าไร คงจะบางเบาเพราะว่ายังเป็นเวลาดึกอยู่

     แต่ผมลืมคิดไปว่า สนามบินนั้นไม่เหมือนกับที่ทำการหรือหน่วยราชการ ห้างร้านต่างๆ ซึ่งมีเวลาปิดเปิด แต่ที่สนามบินมีเครื่องบินขึ้นลง อยู่ทุกๆนาที ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด

     เมื่อลูกสาวมาส่งที่ประตูของผู้โดยสารขาออกแล้ว ผ่านประตูเข้าไป โอ้โห ทำไมคนมากมายขนาดนี้ เข้าแถวทำอะไรกันสักอย่างหนึ่งยาวเหยียด แถวที่เขาเข้าคิวกันนั้น ก็หักไปหักมาจนไม่มีที่จะยืนต่อคิวอยู่แล้ว ยังคิดอยู่ว่าเมื่อถึงเวลาเครื่องบินออกแล้ว จะทำกันทันหรือเปล่าก็ไม่รู้

     เข้าไปในโซนของผู้โยสารขาออกระหว่างประเทศแล้ว ผมก็พยายามมองหากลุ่มทัวร์ของผม ซึ่งถ้ามองหาจริงๆก็คงมองไม่พบ เพราะว่าคนเดินกันขวักไขว่ แน่นมาก จึงใช้โทรศัพท์ถามกันไปมา จนหากันพบและเห็นว่า ผู้ที่จะไปทัวร์ด้วยกันเที่ยวนี้มารวมกันอยู่ตรงนั้นเอง ผมแจ้งให้หัวหน้าทัวร์ทราบว่า ผมสองคนมาแล้ว

     คนที่เป็นพนักงานของบริษัทัวร์ ที่มาอำนวยความสะดวกให้กับพวกผมในเที่ยวนี้มีชื่อว่า คุณ ปิ๊ก (เป็นผู้ชาย) และมีไกด์หญิงอีกคนหนึ่งชื่อว่า คุณปอร์ ยืนคอยต้อนรับลูกทัวร์อยู่

ไปเที่ยวพม่า 

เข้าคิวกันโหลดกระเป๋าและสัมภาระขึ้นเครื่องบิน มีพนักงานของบริษัททัวร์คอยช่วยเหลืออยู่ข้างหลัง คือคุณปอร์และคุณปิ๊ก

 

     คุณปิ๊กคนนี้ หน้าที่ของเขาเป็นเพียงมาดูแล อำนวยความสะดวก และแจกเอกสารต่างๆ ที่สนามบินดอนเมือง แต่เขาไม่ได้เดินทางไปด้วยนะครับ เมื่อเสร็จจากการต้อนรับลูกทัวร์ เขาก็เป็นอันว่าเสร็จหน้าที่ แล้วก็หายไปไหนก็ไม่รู้

     ส่วนคุณปอร์นั้น รับทำหน้าที่ต่อ ก็คือ คอยดูแลเรื่องการทำเอกสาร และขั้นตอนอื่นๆ จนกระทั่งขึ้นเครื่อง คุณปอร์จะต้องเดินทางไปกับเราด้วย เพื่อไปอำนวยความสะดวกที่ประเทศพม่าและ จะอยู่กับพวกเราทุกวันที่ประเทศพม่า จนกระทั่งถึงวันกลับก็กลับด้วยกันครับ

     คิดไปแล้วคุณปอร์ก็เป็นเพียงทำหน้าที่เป็นไกด์ผู้ช่วย นำพวกเราไปลงที่พม่า และต่อจากนั้นเมื่อถึงพม่าแล้ว จะเป็นหน้าที่ของไกด์พม่าคนหนึ่ง  มารอรับพวกเราที่สนามบิน และจะอยู่กับพวกเรา จัดการพาพวกเราไปเที่ยวในที่ต่างๆตามโปรแกรม (และเปลี่ยนโปรแกรม) อำนวยความสะดวก ที่กิน ที่พักให้โดยมีคุณปอร์เป็นผู้ช่วย จนกระทั่งกลับเลยครับเรื่องไกด์พม่านี้ ต่อไปก็จะเล่าให้ฟังครับ

     กลับมาที่สนามบินดอนเมืองในตอนที่ผมเพิ่งมาถึง คุณปิ๊กเขาก็เอาป้ายที่เขียนชื่อผมและคุณหวาน ซึ่งเป็นของบริษัททัวร์ มาผูกไว้ที่หูกระเป๋า เพื่อป้องกันการสับสนเวลาโหลดเข้าท้องเครื่องบินในตอนเดินทางแล้วก็แจกถุงหิ้ว หมวกแก๊ป โบชัวร์ต่างๆ เป็นอันเสร็จการทำงานของเขา

     ในการทำเรื่องเกี่ยวกับการเดินทาง ที่สนามบินดอนเมืองก็ยุ่งยากพอสมควร เพราะว่าในวันที่ผมเดินทางนั้น มีคนเดินทางไปในที่ต่างๆมากมายและเคาน์เตอร์ของสายการบิน แอร์เอเชีย หยุดทำการปรับปรุงหลายเคาน์เตอร์ด้วย

     จึงทำให้มีคนที่จะเดินทางเข้าแถวกันคดเคี้ยวไปมายาวมากๆเลย ในขณะที่ทำพิธีการต่างๆนี้ ไกด์ของผมก็คือคุณปอร์ มาคอยดูแลลูกทัวร์ทุกคนด้วย และคอยช่วยเหลืออยู่เสมอเมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น

     กว่าจะสแกนกระเป๋า โหลดกระเป๋า รับตั๋วเครื่องบิน แล้วก็ไปสแกนที่หน่วยตรวจคนเข้าเมืองอีก ตรวจตามร่างกายของแต่ละคน เมื่อไม่มีอะไรแล้วจึงผ่านได้ แต่ถ้ามีปัญหาจะเอาของต้องห้ามไปด้วยก็จะเกิดปัญหาใหญ่ และคงจะไม่ได้เดินทางไปในเที่ยวนี้แน่นอน ต้องเคลียร์กันให้ได้ก่อนจึงจะเดินทางได้ หรือจะเข้าคุกเลยก็แล้วแต่กรณี

     เพราะฉะนั้น ถ้าเราเป็นสุจริตชนก็ไม่มีปัญหาอะไร ของเล็กๆน้อยๆก็เอาไปได้เช่น กล้องถ่ายรูป กล้องวีดิโอ โทรศัพท์มือถือ ยารักษาโรคประจำตัว มีดโกนหนวด ยาสีฟัน แปรงสีฟัน อะไรพวกนี้ แต่ยกเว้นของมีคมต่างๆนะครับ เอาใส่กระเป๋าถือไปไม่ได้ เครื่องสแกนจะร้องดังเวลาเข้าเครื่องสแกน ถ้าจะเอาไปจริงๆก็ต้องเอาใส่กระเป๋าใหญ่โหลดเข้าไต้ท้องเครื่องบินซึ่งเป็นที่เก็บกระเป๋าเดินทางต่างๆครับ

 ไปเที่ยวพม่าไปเที่ยวพม่า
เมื่อผ่านกระบวนการของผู้โดยสารที่จะเดินทางไปต่างประเทศแล้ว ทุกคนก็จะมารอขึ้นเครื่อง สังเกตุดูจะมีคนรอมากเหลือเกินครับ

     และสิ่งของต้องห้ามที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน ยังมีอีกมากมาย ตามที่มีประกาศเอาไว้ ในที่ต่างๆของห้องผู้โดยสารขาออก ต้องไปอ่านดูเอาเองนะครับ

     กว่าจะเสร็จพิธีการต่างๆกินเวลาไปตั้งสองชั่วโมง ก็ใกล้เวลาเครื่องบินจะออกพอดี ข้าวปลาไม่ต้องกินเกินกันละ แต่ก็มีบางคนแวะซื้อกาแฟ ขนมปังกินรองท้องกันไปก่อนเพราะทนหิวไม่ไหว ต่างก็บ่นกันอู้เหมือนกันว่า ของกินที่สนามบินแพงจังเลย

มีหลายๆคนที่คุยกันกับผม กะว่าจะไปกินข้าวเที่ยงที่พม่ากันเลยทีเดียว ยังดีนะที่ผมและคุณหวานติดขนมปังและนมกล่อง มาตอนที่นั่งรถมากับลูกสาวด้วย จึงกินกันในรถแล้วก็พอประทังไปได้บ้าง

(บนเครื่องบินเขาห้ามนำเอาอาหารหรือน้ำดื่มขึ้นไปอย่างเด็ดขาด มีอะไรเหลืออยู่ในมือให้ทิ้งลงถังขยะให้หมด )

ตามกำหนดการเครื่องบินจะออกในเวลา 7.30 น. และจะบินไปถึงประเทศพม่า ลงที่สนามบิน มิงกาลาดง  ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติของพม่า อยู่ที่เมืองย่างกุ้ง ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 45 นาทีเท่านั้นเอง

ก่อนจะถึงเวลาเครื่องบินออก พวกที่จะเดินทางไปต่างประเทศก็เข้ามารอกันที่ห้องใหญ่ของผู้โดยสารขาออก รออยู่ไม่นานเขาก็ประกาศว่า ให้ผู้โดยสารที่จะไปพม่า เที่ยวบิน เท่านั้นเท่านี้ ไปขึ้นรถบัสที่จะพาไปขึ้นเครื่องที่จอดอยู่ในสนามบินไกลๆโน้น

P4230018
ไปเที่ยวพม่า
ไปเที่ยวพม่า
ไปเที่ยวพม่า

     พวกผมขึ้นรถบัสของแอร์เอเชียกันเรียบร้อยแล้ว รถบัสก็พาวกวนอยู่ในสนามบินนานพอสมควรกว่าจะถึงตัวเครื่องบิน แล้วก็ขึ้นเครื่องบินสองเครื่องยนต์ลำขนาดปานกลาง คาดคะเนเอาว่า จุได้ประมาณ 200 คนหรือกว่านั้นก็ไม่ได้ศึกษามานะครับ

ไปเที่ยวพม่า

เที่ยวนี้ของการบินไปพม่ามีผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง เครื่องบินขึ้นจากสนามบินดอนเมืองแล้ว บินมุ่งตรงไปยังประเทศพม่า จะลงจอดที่สนามบิน “มิงกาลาดง” ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติของประเทศพม่าครับ

20160423 07172220160423 071752ไปเที่ยวพม่า
เครื่องบินกำลังบินขึ้น จากสนามบินดอนเมือง ยังมองเห็นอาคารบ้านเรือนอยู่ข้างล่าง
ไปเที่ยวพม่าขึ้นถึงเพดานบินของเขาแล้ว มองไม่เห็นข้างล่างและเมฆเลย เห็นแต่ท้องฟ้า เพราะว่าบินสูงกว่าเมฆไปเที่ยวพม่า
สนามบิน "มิงกาลาดง" สนามบินนาๆชาติของพม่าที่เมืองย่างกุ้ง เครื่องบินลำที่เรานั่งกำลังแท๊กซี่เข้าจอดเทียบท่า

ไปเที่ยวพม่าถึงสนานบิน มิงกาลาดง ของพม่าแล้ว ไกด์กำลังรอลูกทัวร์มารวมตัวกันที่ตรงนี้

ไปเที่ยวพม่าเพื่อนผู้ร่วมเดินทางในเที่ยวนี้ที่จริงมีอีกหลายคน ซึ่งรวมทั้งคณะ 24 คน

ติดตามตอนต่าง ๆ ของเรื่อง "ไปเที่ยวพม่า" ได้ตามลิงค์ข้างล่างครับ

 

เรารักสุพรรณฯ - ขอบคุณที่กดไลค์ให้เรา

share now2