เรารักสุพรรณ สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี

 เจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon  Pagoda) ที่เมืองย่างกุ้ง

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง     เจดีย์ชเวดากอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับแรก ที่นักท่องเที่ยวทุกคน ที่เดินทางมาประเทศพม่า จะต้องเข้าไปเยี่ยมชมและสักการะเป็นลำดับต้นๆ 

     เจดีย์ชเวดากอง แปลว่า เจดีย์ทองคำแห่งเมืองตะเกิง เป็นเจดีย์ทองคำที่สร้างขึ้นบนเนินเขาที่ชื่อว่า เชียงกุตตระ  (Thienguttara Hill หรือ Singuttara Hill) เจดีย์นี้จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความโดดเด่นสูงสง่าสวยงาม สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมเมือง เพราะสูงเด่นเป็นสง่าเป็นสีทองทั้งองค์ มีความสูงถึง 98 เมตร ไม่มีตึกหรืออาคารสูงมาบดบังได้

     บนยอดสูงสุดของเจดีย์มีผู้บันทึกไว้ว่า มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 76 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด มีมรกตเม็ดใหญ่อยู่ตรงกลาง เพื่อรับลำแสงแรกและลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ 

     ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนี้สร้างขึ้นเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างโดยชาวมอญเป็นผู้สร้างขึ้น เจดีย์ชเวดากองเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งรายละเอียดต่าง รวมทั้งประวัติและตำนานของเจดีย์องค์นี้ มีมากมาย มีคนเขียนเอาไว้เยอะแล้ว ผมจึงไม่ได้เอ่ยขึ้นมาในที่นี้ อยากทราบรายละเอียดต่างๆละก็ไปหาใน Google นะครับ

     เมื่อคณะของเราเดินทางมาถึงต่างคนต่างก็มองไปที่ยอดเจดีย์ซึ่งสูงเสียดฟ้าและใหญ่โตมโหฬาร ยอดของเจดีย์และองค์เจดีย์ต้องแสงอาทิตย์ยามบ่ายเหลืองอร่าม

     เมื่อลงจากรถกันหมดแล้วเห็นที่ทางขึ้นเจดีย์มีสิงห์รูปปั้นตัวใหญ่มากสองตัวอยู่ทางซ้ายและขวาของทางเข้า มีคนที่มาเที่ยวและมาสักการบูชาเดินเข้าออกกันขวักไขว่

     ไกด์ของเราคือนายซายซาย ไม่ได้บอกพวกเรามาก่อนว่า ทางขึ้นเจดีย์นี้ที่จริงมีทางเข้าได้หลายทางพวกเราเลยรู้สึกงงๆอยู่

     นายซายซายถือธงผ้าเขียวๆ เดินนำพวกเราเข้ามาทางหนึ่ง ไม่ได้เข้าไปทางที่มีทางเดินเป็นสายพาน และเป็นบันไดเลื่อนขึ้นไปยังองค์พระธาตุเจดีย์ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่จะเดินขึ้นไปทางนั้น

     แต่นำหน้าพาพากเราเข้าไปทางที่มีลิฟท์ ทางขึ้นองค์พระเจดีย์ทางลิฟท์นี้สังเกตดูไม่ค่อยมีคนใช้มากนัก ส่วนใหญ่จะเข้าทางด้านหน้ากัน

     ออกจากลิฟท์แล้วก็โผล่ที่ๆทำการของเขา มีพนักงานคอยช่วยอำนวยความสะดวกให้อยู่หลายคน ไกด์บอกให้พวกเราทั้งหมด รออยู่ตรงหน้าลิฟท์ก่อน แล้วเขาก็เดินลิ่วไปที่เคาน์เตอร์ ซึ่งมีพนักงานนั่ง ยืนอยู่หลายคน

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

     นายซายซายคงไปซื้อบัตรค่าเข้าชม และคงไปเสียเงินค่าฝากรองเท้าด้วย สักครูหนึ่งก็เสร็จเรียบร้อยเดินกลับมาที่พวกเรายืนอยู่ นายซายซายและคุณปอร์ซึ่งเป็นไกด์ผู้ช่วยที่เดินทางมากับเราจากกรุงเทพฯ ช่วยกันเอาบัตรซึ่งเจาะรูผูกเชือกแล้ว มาแจกพวกเราแต่ละคนและบอกว่า ให้เอาบัตรนี้แขวนคล้องคอเอาไว้ เป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเราได้เสียเงินค่าเข้าชมกันแล้ว ที่นี่ไม่เสียค่ากล้องถ่ายรูปและกล้องถ่ายวีดีโอครับ (สถานที่เที่ยวบางแห่งต้องเสีย ประมาณ 100 จั๊ด)

ต่อจากนี้ไปพวกเราก็เดินเท้าเปล่ากันจนกว่าจะกลับละครับ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าบ่ายมากแล้วอากาศค่อยคลายความร้อนลงไปมากแล้ว

     เสร็จธุระจากทางหน้าลิฟท์แล้ว เดินออกไปเล็กน้อยก็โผล่มาที่ลานกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นลานของเจดีย์เลยทีเดียว อันดับแรกนี้ก็ต้องซื้อดอกไม้และเครื่องไหว้พระกันก่อน นายซายซายและคุณปอร์บอกให้พวกเรารออยู่ก่อน ทั้งสองคนก็ไปชี้อดอกไม้กำมาหลายชุดเขาคงกะแล้วให้พอดีกับคนที่ไปด้วยกัน เพราะว่าต้องซื้อทุกๆคน

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

สักพักหนึ่งทั้งสองคนก็หอบดอกไม้มาคนละหอบใหญ่ๆ มายืนต่อหน้าพวกเรา ใครจะต้องการก็บอกเขาแล้วก็จ่ายเงินให้นายซายซายไปตอนนี้เลย

ดอกไม้กำไหนจะไหว้ที่ตรงไหน นายซายซายก็อธิบายพร้อมด้วยขายดอกไม้ให้พวกเราไปด้วย แกบอกว่าดอกไม้ชุดที่มีฉัตรทองให้ไปไหว้ที่ตรงนั้น กำที่มีฉัตรเงินให้ไปไหว้ที่ตรงนี้ ให้พวกเราจำเอาไว้ จะได้ไม่ผิดพลาดสับสน

ก่อนจะไปจากตรงนี้ นายซายซายก็นัดเวลาขากลับให้พวกเรามากันตามเวลา มารวมกันที่เสาต้นหนึ่งซึ่งใหญ่และสูงพอสมควร บนยอดเสาจะมีหงส์เกาะอยู่ แล้วนายซายซายก็ชี้ให้ดูเสาต้นนั้น ซึ่งแกบอกว่า ที่เจดีย์นี้จะมีเสาที่มีหงส์อยู่ข้างบนเพียงต้นเดียวเท่านั้น ขากลับถ้าหลงก็ให้เดินดูเสาที่มีหงส์ไปเรื่อยๆแล้วจะมาถูกเอง

 ต่อจากนี้ไปพวกเราก็แยกย้ายกันไปตามแต่จะไปตรงไหน ที่ว่าแยกย้ายกันไปนั้น เพราะว่าทัวร์เที่ยวนี้ไม่ได้เป็นพวกเดียวกันทั้งหมด บางคนมากันสามคนบ้าง สองคนบ้าง แต่ที่มาคนเดียวเห็นจะไม่มีนะครับ

ผมกับคุณหวานเดินกันไปเพียงสองคนเท่านั้น เดินไปประเดี๋ยวเดียวก็เห็นคนมากมายกำลังนั่งที่พื้นไหว้พระกันอยู่ ก็เลยเข้าไปไหว้กับเขาบ้าง ที่ตรงนี้เราไหว้ด้วยดอกไม้กำที่มีธงและมีฉัตรทอง คงจะเป็นพระประธานประจำองค์เจดีย์เป็นแน่จึงมีคนมากราบไหว้กันมากที่สุด คนที่มาถึงใหม่ๆก็จะมากระจุกอยู่ที่ตรงนี้

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

เสร็จแล้วก็ไปไหว้พระอีกที่หนึ่งถัดไปซึ่งไหว้ด้วยดอกไม้กำเหมือนเดิมแต่ต่างกันที่เป็นฉัตรเงิน เรียบร้อยหมดแล้วไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว ต่อจากนี้ไปก็เดินดูอะไรต่างๆไปเรื่อยๆ โดยการวนรอบเจดีย์ไปทางขวา (ตามเข็มนาฬิกา) แต่ใครจะเดินวนทางไหนผมว่าก็น่าจะได้ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดนะครับ แต่ที่มีปัญหาก็คือจะเดินสวนทางกับคนอื่นๆซึ่งมีหนาแน่น เพราะเขาเดินวนทางขวา (ตามเข็มนาฬิกา) กันทั้งนั้น

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากองเที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากองเที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

 

บ่ายจัดจนเกือบจะเย็นแล้ว อากาศไม่ร้อนและพื้นหินอ่อนก็เย็นลงแล้ว ผมและคุณหวานเดินไปเรื่อยๆ เมื่อยมากนักก็นั่งพักกันเสียหน่อย ก็นั่งที่พื้นเลยละครับ เห็นมีคนนั่งบ้างเหมือนกัน เหตุที่นั่งกับพื้นทางเดินนั้นก็เพราะว่า มองดูแล้วไม่เห็นมีเก้าอี้นั่งเลย

ที่รอบๆองค์เจดีย์นั้นเขามีที่สรงน้ำพระตามวันเกิดด้วย ใครเกิดวันไหนก็ไปกราบไหว้พระที่ตรงนั้น เช่นคนเกิดวันอาทิตย์เขาก็มีป้ายบอกวันเป็นภาษาอังกฤษ พออ่านรู้นะครับ

ผมเกิดวันอาทิตย์ ก็เดินๆดูเห็นแล้วก็ไปไหว้แล้วก็จับเอาขันมาตักน้ำที่ในอ่างข้างหน้า ตามที่ไกด์ของเราบอกมาก่อนหน้านี้ ราดลงไปที่รูปปั้นพญาครุฑเล็กๆ เขาบอกให้รดน้ำตามอายุนะ แต่คงจะไม่ไหว ผมก็รดน้ำลงไปเป็นพิธีเท่านั้นเอง มีคนมาเข้าคิวต่ออีกจึงต้องรดเท่านั้นแหละครับ

 

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
 เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

ส่วนคุณหวานเขาเกิดวันเสาร์ซึ่งมีรูปปั้นเป็นพญานาค เขาก็รดน้ำไปตรงพญานาคจนครบอายุ กว่าจะหาที่สรงน้ำสำหรับคนเกิดวันเสาร์ผมก็ต้องเดินหาเกือบรอบเจดีย์ เพราะว่า แต่ละวันนั้นเขาไม่ได้ทำหรือจัดให้อยู่เรียงๆกัน แทนที่วันเสาร์กับวันอาทิตย์จะอยู่ใกล้กัน กลับไม่อยู่เสียนี่แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือเสียว่ามาเที่ยวและมาทำบุญก็แล้วกันนะครับ

 

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากองเที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากองเที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

เย็นแล้วคนยิ่งมาก ขนาดลานเจดีย์กว้างใหญ่ ยังต้องเดินเกือบๆเบียดกัน มีคนที่เคยมาเที่ยวแล้วบอกว่ายิ่งค่ำคนยิ่งเยอะเขานิยมมากันตอนค่ำๆ อากาศไม่ร้อน พื้นหินอ่อนไม่ร้อน และแสงสีสว่างไสวสวยงามยิ่งนัก

ที่เห็นก็มีพวกฝรั่งไม่มากนัก จะมีมากก็คนเอเชียนี่แหละครับ แต่จะเป็นชาติไหนบ้างก็ดูไม่ค่อยออกหรอกครับ เพราะไม่ค่อยแตกต่างกัน

ผมและคุณหวานเดินวนขวาไปเรื่อยๆ ไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นลานกว้างมีคนนั่งอยู่มากแล้ว สถานที่นี้เขาเรียกว่า ลานอธิษฐาน ผมเข้าไปใกล้ๆและนั่งลงในกลุ่มคนบ้าง พลางกราบไหว้แล้วก็อธิษฐานแต่สิ่งที่ดีๆ

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

ตามประวัติเล่าว่าที่ลานอธิษฐานนี้ มีกษัตริย์บางพระองค์ของพม่าในสมัยโบราณเคยมาอธิษฐาน ณ ที่แห่งนี้ เช่นเมื่อ พ.ศ. 2094 - 2124 พระเจ้าบุเรงนองได้มาสักการะที่ลานอธิษฐานแห่งนี้หลายครั้ง ก่อนออกไปทำศึกสงคราม เป็นคำที่เขาเล่าๆกันมานะครับ

ผมนั่งที่ลานอธิษฐานเป็นเวลานานพอสมควร พร้อมกับถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึกด้วย ต่อจากนั้นก็ชวนกันเดินไปรอบๆเจดีย์ชมนั่นนี่ไปเรื่อยๆ เมื่อยบ้างก็นั่งพักกันที่บนพื้นลานข้างๆเจดีย์นั่นแหละ เห็นมีคนอื่นๆเขาก็นั่งพักเช่นเดียวกับเรา คงเมื่อยขาเหมือนกันครับ

 

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากองเที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

เย็นมากแล้วเกือบค่ำแสงไฟจากองค์เจดีย์เริ่มเปิดสว่างไสว สวยงามยิ่งนัก ยิ่งค่ำคนก็ยิ่งมากทำให้เห็นว่า ผู้คนเหล่านี้มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อองค์พระเจดีย์จริงๆ

เที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากองเที่ยวพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

 ใกล้เวลานัดหมายที่จะเดินทางกลับแล้ว ผมและคุณหวานจึงเดินไปที่นัดหมายคือ ตรงที่มีเสาหงส์ เมื่อไปถึงเห็นพวกเรามายืนๆนั่งๆกันอยู่หลายคนแล้ว

เมื่อได้เวลาคณะทัวร์ของผมก็มารวมตัวกันครบ ไกด์ของเราและคุณปอร์ จึงได้เดินนำไปยังจุดที่เราเข้ามาคือตรงหน้าลิฟท์นั่นเอง ไปรับเอารองเท้าที่ฝากไว้ เรียบร้อยแล้วก็ลงลิฟท์ ถึงชั้นล่างแล้วก็ออกไปจากตัวอาคาร รถของเรามาจอดรออยู่แล้วครับ

ติดตามตอนต่าง ๆ ของเรื่อง "ไปเที่ยวพม่า" ได้ตามลิงค์ข้างล่างครับ


share sija