เรารักสุพรรณ สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี

พระธาตุอินทร์แขวน , ไจ๊ทีโย

     พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจ๊ทีโย (Kyaikhtiyo) เป็นภาษามอญมีหมายความว่า หินรูปหัวฤๅษี พระธาตุอินทร์แขวนตั้งอยู่ที่เมืองไจ๊โถ่ (Kyaikto) อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า

พระธาตุอินทร์แขวนตั้งอยู่บนยอดเขาพวงลวง เหนือระดับน้ำทะเล 3,615ฟุต ลักษณะเด่นของพระธาตุอินทร์แขวนคือ มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่สูง5.5เมตร ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่ เหมือนจะหล่นและท้าทายแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมาอย่างเหลือเชื่อ

พระธาตุอินทร์แขวนนับเป็น1ใน5สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่าและนักท่องเที่ยวต้องไปสักการะ และยังถือกันว่าเป็นพระธาตุประจำปีจอ ที่คนเกิดปีนี้ต้องไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต

พระธาตุอินทร์แขวน อยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ180กิโลเมตร โดยนั่งรถขึ้นไปทางเหนือไปสู่คินปุนเบสแคมป์ (KinpunBaseCamp) ใช้เวลาเดินทางจากหงสาวดีประมาณ4 - 5ชั่วโมง (ไม่แน่นอน) จากนั้นก็นั่งรถบรรทุกหกล้อเดินทางขึ้นสู่ภูเขาซึ่งบางตอนสูงชันและวกวน ใช้เวลานั่งรถบรรทุกอีกประมาณ 55 นาที

พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย

พระธาตุอินทร์แขวนนับเป็น1ใน5สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่าต้องไปสักการะ และยังเป็นพระธาตุประจำปีจอ ที่คนเกิดปีนี้ต้องไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต

การเดินทางไปยังพระธาตุอินทร์แขวนประเทศพม่านั้น บางคนบางคณะจะไม่เหมือนกัน เมื่อสมัยก่อนที่ยังไม่มีถนนรถยนต์นั้นใช้การเดินเท้าขึ้นไป แต่ในปัจจุบันนี้เขามีรถบรรทุกขึ้นไปจนถึงใกล้พระธาตุเลยทีเดียว แต่เมื่อลงจากจุดที่รถบรรทุกจอดแล้ว ก็ยังเดินขึ้นไปอีกประมาณ 1 กม.หรือ กม.กว่าๆ จึงจะถึงบริเวณพระธาตุ  ผมก็จะเล่าถึงการเดินทางของผมก็แล้วกันครับ

ในตอนแรกคณะของผมตื่นกันแต่เช้าและออกจากโรงแรมที่พักในเมืองย่างกุ้ง แล้วก็ไปเมืองหงสาวดีไปที่เจดีย์ไจ๊ปุ่น แล้วก็ไปชมวังบุเรงนอง นอกจากนั้นก็ไปทำบุญใส่บาตรกันที่วัดไจ๊คะวาย ตามที่ผมเล่ามาแล้วในตอนก่อนๆ

กินข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารในเมืองหงสาวดีเสร็จแล้ว จึงได้ออกเดินทางกันไปพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งใช้เวลาเดินทางยาวนาน นั่งรถกันจนเมื่อยหลับบ้างตื่นบ้างตลอดทาง ระหว่างที่รถวิ่งผ่านนั้น (การจราจรของเขาวิ่งชิดขวาครับ)บรรยากาศก็คล้ายๆบ้านเราคือมีแต่ทุ่งนา ผ่านแม่น้ำลำคลองบางแห่ง เขาก็มีชื่อเขียนป้ายไว้ แต่เป็นภาษาพม่าผมอ่านไม่ออกเลย

นานๆก็ผ่านชุมชนต่างๆสักทีหนึ่ง เห็นประชาชนของเขาทั้งหญิงและชายนุ่งผ้าถุงนุ่งโสร่งกันทั้งนั้นเลย ที่หน้าก็ประแป้งเสียขาวแทบทุกคน เรื่องพม่าประแป้งที่แก้มและหน้าผากเสียขาวนั้น มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่แป้ง แต่เป็นไม้สมุนไพรชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ทานาคา เอามาฝนกับหินเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเหมือนที่ลับมีด แล้วจึงออกมาเป็นคล้ายๆแป้ง

รถวิ่งไปเรื่อยๆเราก็หลับๆตื่นๆมาตลอดทาง เหลืออีกประมาณ 10 กม.จะถึง คินปุนเบสแค้ม ซึ่งเป็นที่พักรถ ไกด์บอกว่า ให้พวกเราจัดการลงไปยืดเส้นยืดสาย ไปทำธุระส่วนตัวกันให้เสร็จ ใครอยากกินหรืออยากซื้ออะไรก็ทำตามความพอใจเขามีขาย แต่ไกด์บอกอีกว่า ของกินเช่นน้ำดื่มนั้นไม่ต้องซื้อไปก็ได้ ข้างบนนั้นจะมีทุกอย่างอยู่แล้ว ซื้อจากตรงนี้ไปจะหนักเสียเปล่าๆ

พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย
พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย
พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย
พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย

สถานที่พักรถ ซึ่งอีก 10 กม.ก็จะถึงที่เปลี่ยนรถแล้ว เขาหยุดตรงนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ยืดเส้นสาย เข้าห้องน้ำทำธุระ และตรงนี้มีร้านอาหารด้วย ถ้าใครหิวก็กินกันที่ตรงนี้

เมื่อเสร็จจากการทำธุระตรงที่พักรถซึ่งเขาให้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว จึงขึ้นรถเดินทางต่อจากตรงที่พักรถไปอีกประมาณ 10 กม.รถวิ่งประเดี๋ยวเดียวก็จะถึงจุดที่จะถ่ายคนลง ซึ่งเป็นชุมชนเป็นตลาดแห่งหนึ่งเป็นที่จอดรถที่จะขึ้นเขาพวกเราลงจากรถแล้วก็เอาสัมภาระที่จำเป็นต้องใช้ในระหว่างอยู่บนเขาหนึ่งคืน

ก่อนที่จะมานี้ไกด์ของเราได้แนะนำแล้วว่า ให้เอาของที่จำเป็นแยกจากกระเป๋าใหญ่ เอามาใส่กระเป๋าเล็กๆซึ่งหิ้วหรือถือสะดวกเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นไปด้วย

ทุกคนปฏิบัติตามเสร็จแล้วจับกลุ่มรอเพื่อขึ้นรถหกล้อขึ้นเขาต่อไป การขึ้นเขานี้รถอื่นๆจะขึ้นไม่ได้ มีแต่รถหกล้อของเขาเท่านั้น ซึ่งคนขับรถจะต้องมีความชำนาญเป็นพิเศษจริงๆจึงจะปลอดภัย และเขาจะรับคนอย่างมากไม่เกิน 40 คนเท่านั้นต่อเที่ยว

รถหกล้อที่รับคนขึ้นเขานั้นส่วนใหญ่ก็เป็นรถที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น เหมือนๆกับที่เคยเห็นที่บ้านเรา ก็คือรถหกล้อธรรมดาที่บรรทุกของนั่นเอง เป็นรถที่ค่อนข้างจะใหม่ แต่ก็มีที่จะต้องดูแลปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ไปเสียหรือเครื่องดับตามทาง

รถบรรทุกนี้เขามาดัดแปลงเป็นรถให้คนนั่ง โดยการทำที่นั่งซึ่งทำด้วยเหล็กบุด้วยพลาสติก เป็นแถวๆ นั่งได้แถวละ 6 คน มีราวเหล็กชุบโครเมี่ยมและแข็งแรงเอาไว้ให้ผู้โดยสารจับเอาไว้ เพราะรถจะขึ้นเขา เหวี่ยงซ้ายขวาอยู่เสมอ โดยปกติเขาจะรับเต็มที่ก็ไม่เกิน 40 คนเท่านั้น แต่รถคันที่ผมนั่งขึ้นเขานี้เป็นรถที่ไกด์ได้ติดต่อขอเหมาเอาไว้ จึงมีคนเพียง 26 คนซึ่งรวมทั้งไกด์ด้วยแล้วไม่มีคนอื่นๆปนจึงไม่แออัดเท่าไร

พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย

การขึ้นไปบนรถนั้นเขามีบันไดเหล็กมาเทียบแล้วเดินขึ้นไปหาที่นั่งตามใจชอบ

พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย
พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย
พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย
พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย

เส้นทางที่ขึ้นเขาตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจาก คินปูนเบสแค๊มป์ ก็เริ่มสูงชันและคดเคี้ยว หักข้อศอกบ้างเป็นบางตอน  คณะของเราร้องกันลั่น กรี๊ดกร๊าดกันด้วยความหวาดเสียวท่ามกลางทิวมัศน์ที่สวยงาม

ระยะเวลาในการขึ้นเขานี้ใช้เวลาประมาณ ๕๕ นาที (ไม่แน่นอน) ซึ่งเป็นระยะเวลาแห่งการตื่นเต้นที่สุด ไม่รู้ว่าจะมีใครคนไหนฉี่ราดบ้างหรือเปล่าเขาก็ไม่บอกเสียด้วยซีครับ

ในระหว่างเดินทางขึ้นเขานี้ จะมีที่พักรถและจะมีคนมาขอรับบริจาค เพื่อจะเอาเงินไปทำอะไร หรือไปทำบุญที่ไหนก็ฟังภาษาของเขาไม่ออก ตลอดทาง

มีคนบอกว่าเมื่อสมัยก่อนย้อนหลังไปประมาณ 5-6 ปี การเดินทางขึ้นเขานี้ จากจุดที่จอดรถเปลี่ยนรถ ยังไม่มีทางรถยนต์ขึ้นข้างบน แต่จะมีทางเดินเท้าเพื่อเดินทางด้วยเท้าขึ้นไปยังยอดเขา คนที่จะขึ้นไปจะต้องเดินขึ้นไป ทำให้ลำบากและเหนื่อยมาก ตอนที่มีถนนอย่างในปัจจุบันนี้จึงขึ้นได้สะดวก พอถึงจุดที่รถจอดแล้วก็เดินไปอีกไม่มากนักก็จะถึงลานพระธาตุแล้ว

พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย

ระหว่างเดินทางขึ้นเขา มีรถสวนลงมาจากเขาบ้าง และมีรถจอดพักตามเส้นทางบ้างเป็นระยะ

พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย

ไกด์ของเราสองคนคือนายซาย ซาย และคุณโบว์ มานั่งคุมการเดินทางข้างท้ายรถครับ

รถหกล้อกระบะ ที่ดัดแปลงให้มีที่นั่งที่กระบะรถ วิ่งขึ้นเขาด้วยความชำนาญ ผมและคนอื่นๆคงมีความรู้สึกเดียวกันว่าหูอื้อๆเพราะว่าสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เส้นทางก็ขึ้นๆลงๆ โค้งหักศอก เลี้ยวกระทัน เกือบชั่วโมงต่อมาก็ขึ้นถึงยอดเขา ซึ่งเป็นลานกว้าง เป็นท่าจอดรถซึ่งเป็นสถานที่กว้างขวาง และพวกเราก็ค่อยๆทยอยลงจากรถสูดอากาศหายใจอย่างแรง ด้วยความโล่งอก

ข้างบนเขาซึ่งเป็นที่จอดรถหรือจะเรียกว่าท่ารถก็ได้นี้เป็นที่โล่งกว้างขวาง มีผู้คนต่างชาติต่างภาษาซึ่งขึ้นมาถึงก่อนแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นชาวพม่าเสียมากกว่า เดินกันขวักไขว่ตะโกนเรียกหากันเสียงดังลั่น

พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย

ลงจากรถหกล้อที่ลานจอดรถแล้ว ก็รวมกลุ่มกันเดินทางด้วยเท้าไปอีกไกลพอสมควร

เมื่อรถกระบะที่บรรทุกพวกเรา26คน (รวมทั้งไกด์ทั้งสองคนด้วย)ขึ้นมาถึงที่จอดรถบนเขาเรียบร้อยแล้ว ก็จอดเทียบบันไดที่มีโครงเหล็กเหมือนกับนั่งร้าน เพื่อให้พวกเราก้าวลงสะดวกๆหน่อย ต่างคนต่างก็รีบลงแบบแย่งกันลง เพราะอยากลงจากรถเต็มทีแล้ว นั่งสั่นอยู่บนรถตั้งนานแน่ะ

ลงจากกระบะรถบรรทุุกเรียบร้อย พร้อมทั้งถือสัมภาระที่ติดตัวมาเช่นกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบเล็กๆที่แยกมาจากกระเป๋าใบใหญ่แล้ว ไก๊ด์ก็ถือด้ามธงซึ่งมีธงสีเขียวๆผืนเล็กๆ อยู่ที่ปลายด้าม ยกชูสูงๆเพื่อให้บรรดาสาวกของแกได้เห็น ว่าข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ เดินมาทางนี้ อะไรแบบนั้นละ

(เคยเห็นหรือเปล่าครับ โดยมากมักจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวไทยเป็นกลุ่มๆ ไกด์หรือผู้นำการท่องเที่ยวเขาจะมีธง สีอะไรก็ได้ โดยมากเป็นสีเดียว เดินนำ แล้วลูกทัวร์ก็จะเดินตามเป็นฝูง) เมื่อลงจากรถแล้ว นายซายซาย ก็เรียกลูกทัวร์ด้วยปากเปล่า (ไม่มีโทรโข่ง) ท่ามกลางเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ ของคณะทัวร์อื่นๆที่เที่ยวที่นี่ด้วยเหมือนกัน

พวกเราได้ยินแล้วเดินมารวมกลุ่มทันทีเพื่อมาฟังไกด์ของเราจะมีเรื่องอะไรบอกมั่ง ไกด์ ซายซาย เริ่มบอกเรื่องต่างๆที่ควรระวังและสิ่งที่ควรจะปฏิบัติเมื่ออยู่ที่นี่

 และจะต้องเดินจากตรงลานจอดรถนี้ต่อไปอีกไกลแค่ไหนจึงจะถึงบริเวณที่ตั้งของพระธาตุ แล้วโรงแรมที่พักของเราในคืนนี้อยู่ตรงไหน  แล้วก็เรื่องอะไรอีกเยอะแยะ แต่ที่สำคัญที่ไกด์บอกก็คือ ถ้าถึงปริมณฑลของพระธาตุอินทร์แขวนเมื่อไร ต้องถอดรองเท้าเดินทันที เหมือนที่เคยบอกมาแล้ว

พระธาตุอินทร์แขวน ไจ๊ทีโย

เมื่อตอนที่พวกผมมาถึงพม่าในตอนแรกๆนั้น นายซายซาย เคยบอกไว้หนหนึ่งแล้วว่า ที่พม่านี้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเขา ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ วัดวาอารามต่างๆ จะต้องถอดรองเท้าทุกที่ ไม่มียกเว้นว่าจะเป็นคนใหญ่ คนดังมาจากไหน และตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น ยังมีข้อห้ามสำหรับสุภาพสตรีอีก แต่ไม่ต้องพูดถึงนะครับ เอาเรื่องถอดรองเท้าก็เแล้วกันครับ

ไกด์ ซายซาย เป็นคนละเอียด มีความรู้มาก อารมณ์ดี เอาใจใส่ต่อลูกทัวร์ทุกกระเบียดนิ้วมีอะไรที่ลูกทัวร์สงสัย อยากรู้ก็ถามแกได้ทุกเวลา นายซายซายก็จะบอกและเล่าให้ฟังอย่างละเอียด

ผมชอบแกมากที่สุด เมื่อวันขากลับจากย่างกุ้งกลับเมืองไทย นายซายซาย มาส่งพวกเราที่สนามบิน "มิงกาลาดง" ที่ย่างกุ้ง ตอนนั้นค่ำแล้ว ผมแอบให้ทิปแกไป30,000.คุณรู้แล้วอย่าบอกใครนะ ผมไม่บอกใครร๊อก ก็เพิ่งจะบอกคุณเป็นคนแรกนี่แหละ รู้แล้วเหยียบเอาไว้ด้วย

อะไรนะครับ อ๋อ30,000จ๊าดน่ะครับ เป็นเงินพม่าครับ เงินสดๆเล๊ย เป็นเงินไทย1,000บาทเท่านั้นเองครับ อิ อิ เล่ามาตั้งนานแล้วไม่ถึงพระธาตุสักที ใกล้แล้วครับใจเย็นๆนะครับ

 

ติดตามตอนต่าง ๆ ของเรื่อง "ไปเที่ยวพม่า" ได้ตามลิงค์ข้างล่างครับ

 

share now2