ประวัติความเป็นมา สถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี (วัดสามชุก)

        สถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี ภาค FM ๑๐๐.๒๕ HMZ ก่อตั้งและเริ่มออกอากาศ เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๖ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแผ่ธรรมะทางพระพุทธศาสนา โดย พระครูสุวรรณวิจิตร เจ้าอาวาสวัดสามชุก เป็นผู้ก่อตั้ง ณ ศาลาการปรียญวัดสามชุก เดิมชื่อว่า "สถานีวิทยุชุมชนคนสามชุก" โดยมี คุณดำรงค์ ล้อมลาย เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอำเภอสามชุก เป็นผู้ดำเนินการ (ดีเจ) คนแรก จากนั้นจัดประชุมและแต่งตั้งกรรมการบริหารสถานี และมีผู้มาดำเนินการรายการต่อๆ มา

วันเดียว เที่ยวตลาดสามชุก

     ตลาดสามชุก เป็นตลาดโบราณ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้นๆ ของจังหวัดสุพรรณบุรี ตลาดสามชุก ในวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี ก็เป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่ไม่อาจจะข้ามผ่านไปได้โดยไม่ได้แวะเข้ามาเที่ยวชม

     การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเที่ยวที่ตลาดสามชุกนี้ เป็นเรืองที่ไม่ยากเลย และยังคุ้มค่ามาก ๆ ในการมาเที่ยวชม แม้ใครที่ไม่ได้มีรถส่วนตัว ก็สามารถเดินทางมาเที่ยวที่ตลาดสามชุกแห่งนี้ง่าย ๆ ด้วยการ "นั่งรถตู้ประจำทาง" ตามข้อมูลข้างล่างนี้ คุณก็สามารถวางแผนการเดินทางมาเที่ยวตลาดสามชุก เพียงวันเดียวด้วยรถตู้ แบบ "ไปเช้า-เย็นกลับ" ได้แล้วล่ะครับ

     พิพิธภัณฑ์ วัดสามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี อยู่ในอาคาร ๒ ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวัด เมื่อเข้าประตูวัดแล้วเลี้ยวซ้าย อยู่ข้างศาลาการเปรียญ ภายในพิพิธภัณฑ์วัดสามชุก เก็บรักษาของเก่า และของโบราณ เช่น ภาชนะโบราณ, เครื่องปั้นดินเผา, เครื่องใช้ต่าง ๆ , เครื่องเงิน, เครื่องทองเหลือง, มีด, ปืน, และเครื่องใช้โบราณอีกมากมาย

        พระพุทธบาท ๔ รอย ที่วัดสามชุก มีอายุราว พ.ศ. ๒๐๕๐ มณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธบาทนี้ ชุมชนได้ร่วมกันสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๓๕๐ และได้รับการบูรณะครั้งหลังสุด เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๑ โดยพระครูสุวรรณวิจิตร เจ้าอาวาส เป็นประธานกรรมการ และนายพงษ์วิน ชัยวิรัตน์ เป็นประธานดำเนินการ รวมทั้งชาวบ้าน ร่วมใจกันบริจาคเงินสนับสนุนการบูรณะในครั้งนี้ด้วย

พระพุทธรูปปางทรมานกาย

     เมื่อครั้งที่กรมพระยาดำรงค์ราชานุภาพ เสด็จประเทศอินเดีย ชมพระพุทธรูปยังไม่ทั่ว ต้องกลับประเทศไทย จึงขอให้รัฐบาลอินเดีย ถ่ายรูปพระพุทธรูปที่สวยที่สุด และให้ส่งมาให้ที่เมืองไทย รัฐบาลอินเดียถ่ายรูปพระพุทธรูปปางทรมานกายส่งมาให้ ท่านเห็นเป็นนิมิตดี จึงถือโอกาสนี้สร้างพระปางทรมานกาย ๒๐๐ องค์ถวายวัดต่างๆ

     วัดสามชุก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ มีพวกมิจฉาชีพ โจรกรรม พระปางทรมานกาย เอาไปซ่อนไว้รอผู้มารับต่อและเฝ้าอยู่ ณ บริเวณนั้นด้วย ปรากฎว่าโจนเกิดหิวข้าว จึงได้ไปขอข้าวชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น ปรากฎว่าบ้านไปขอข้าวนั้นเป็นบ้านของตำรวจ ตำรวจเห็นท่าทางพิรุธ จึงคอยสืบดูและรู้ว่า มีของที่ถูกโจรกรรมมา จึงได้เข้าจับกุมและยึดพระพุทธรูปไว้ และได้ประกาศหาผู้ที่เป็นเจ้าของพระพุทธรูปนี้ ทางวัดสามชุกจึงนำหลักฐาน ไปรับพระปางทรมานกายกลับคืนมา ชาวบ้านเชื่อกันว่า หลวงพ่อทรมานกายคงบรรดาลให้ ขโมยหิวข้าวและถูกจับได้ในที่สุด ซึ่งถือเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระปางทรมานกายองค์นี้

     ร้านกาแฟท่าเรือส่ง ตลาดสามชุก เป็นอีกหนึ่งร้านของกินของอร่อยในตลาดสามชุก ร้านกาแฟท่าเรือส่ง เป็นร้านกาแฟโบราณ คือโบราณทั้งวิธีการชง และโบราณทั้งอายุอานามของร้านเอง เพราะร้านกาแฟท่าเรือส่ง ตลาดสามชุก นั้นมีมานานมาก ๆ ขายตั้งแต่กาแฟแก้วละ 3 สตางค์ ลองคิดดูก็แล้วกันครับ จนทุกวันนี้ร้านกาแฟท่าเรือส่งยังคงยืนหยัดอยู่คู่กับตลาดสามชุก และมีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ใครผ่านมาเที่ยวที่ตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี สุพรรณบุรี ไม่แวะชิมกาแฟร้านนี้ นับว่าพลาดจริงๆ

ร้านกาแฟท่าเรือส่ง (ศิวะนันต์พานิช) เลขที่ 1 ซอย 1 สามชุก ตลาดร้อยปี

     ร้านกาแฟท่าเรือส่ง โดย เจ๊ชั่ง และ เจ๊ม่วยเล็ก ศิวะนันต์วงษ์ เป็นเจ้าของร้านในรุ่นปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวท่านมีพี่น้องทั้งสิ้น 10 คน สมัยเตี่ย (นายหล่งเสี่ย แซ่ตัน) เป็นชาวจีนแคระมาทำการค้าที่ตลาดสามชุกต้องคั่วกาแฟเอง ใช้กาแฟหลายอย่าง เช่น อาราบิก้า โรบัสต้า จากกรุงเทพฯ สูตรกาแฟโบราณ ที่ยังใช้เครื่องคั่วกาแฟ แบบดั้งเดิม

     เดิมมีร้านกาแฟอยู่ที่ท่าเรือส่ง ขายดี ต่อมาเมื่อการคมนาคมทางเรือเลิกไป จึงมาเปิดขายที่ร้านของน้องชายคนที่ 3 ซึ่งเปิดร้านก่อสร้าง ชื่อศิวะนันต์พานิช ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2508 สมัยนายอำเภอสมพร ในเดือนเดียวกับที่มีการเปิดใช้ สะพานพรประชา ขายตั้งแต่ราคาสามสตางค์ ห้าสตางค์ ตอนนี้ราคา 20-30 บาท ร้านเปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น วันหนึ่งๆ เปลี่ยนคนชงสามกะผลัดกันดูแลร้านเจ๊ชั่ง ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการชงกาแฟ มีความคล่องแคล่วมาก ชงให้กับลูกค้าที่แวะเวียนมาที่นี่ทุกวัน

     เรียกได้ว่า ร้านนี้เป็นสถานที่พบปะแลกเปลี่ยนพูดคุย ของชาวตลาดก็ว่าได้ ด้วย ประสบการณ์ที่สั่งสมมานานของเจ๊ชั่ง และรสชาติที่ยังคงเอกลักษณ์มาช้านาน จึงทำให้ร้านกาแฟโบราณ ยืนหยัด และคงคู่ตลาดสามชุก มาจนถึงปัจจุบัน

หมายเหตุ : บทความบางส่วนจาก www.samchuk.in.th

ล่องเรือ จากวัดสามชุก ไปตลาดสามชุก แสนสุขใจ

     ผมไปค้นดูรูปภาพ ที่เคยถ่ายไว้เมื่อประมาณปี 2012 แต่ก็ยังไม่เคยได้นำมาเขียนเรื่องลงเว็บไซต์เลย เป็นภาพที่พาครอบครัวไปไหว้พระที่ วัดสามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี แล้วได้นั่งเรือ จากท่าน้ำวัดสามชุก ไปยัง ตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี ใช้เวลาไม่นานครับ และค่าเรือก็ไม่แพง หลังจากที่ได้โทรไปถาม "พี่เล็ก" ซึ่งเป็นคนขับเรือ ก็บอกว่าปัจจุบัน คงยังให้บริการอยู่ครับ

     สวัสดีครับ วันนี้ผมได้มีโอกาสแวะไปเดินที่ ตลาดสามชุก เลยถือโอกาสแวะเข้าไปซื้อ ข้าวห่อใบบัว และ บ๊ะจ่าง ที่ร้านยินดี ตลาดสามชุก สุพรรณบุรี เป็นของกิน-ของอร่อย หนึ่งในของฝากของ ตลาดสามชุก ครับ ก็เลยได้โอกาสมาแนะนำให้ทุกท่านที่มีโอกาสแวะไปเที่ยวตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี ได้มีของอร่อย ติดไม้ติดมือมารับประทานกัน หรือนำไปเป็นของฝาก ก็ใช้ได้เลยครับ

ข้าวห่อใบบัว ตลาดสามชุก สุพรรณบุรี